ตัวอย่างยี่ห้อที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
- Ambes
- Amcardia
- Amlod
- Amlodac
- Amlopine
- Amlovasc 5
- Amvas/Amvas 10
- Deten
- Lovas
- Narvin
- Norvasc
รูปแบบและส่วนประกอบของยา
แอมโลดิพีน (amlodipine) เป็นยากลุ่ม ยาต้านแคลเซียม (calcium channel blocker) ยาสำหรับรับประทานยาเม็ดมี 2 ขนาด ประกอบด้วยแอมโลดิพีน ขนาด 5 มิลลิกรัม และขนาด 10 มิลลิกรัม
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ แอมโลดิพีนเป็นยาต้านแคลเซียมในกลุ่มไดไฮโดรไพริดีน (dihydropyridine) มีกลไกยับยั้งการไหลเข้าของแคลเซียมไอออนสู่กล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ยาแอมโลดิพีนยังสามารถลดแรงต้านของหลอดเลือดและลดความดันโลหิตโดยทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดแดงที่ peripheral artery ประสิทธิผลการรักษาในภาวะเจ็บแน่นหน้าอก เนื่องจากยาสามารถลดแรงต้านของหลอดเลือดร่วมกับยับยั้งการเกิดการหดตัวของหลอดเลือดหัวใจ เพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าสู่หัวใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ข้อบ่งใช้
ยาแอมโลดิพีน ชนิดรับประทาน มีข้อบ่งใช้ คือ ภาวะเจ็บแน่นหน้าอกคงที่ (stable angina) และ Prinzmetal’s angina ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่เริ่มใช้ยาที่ขนาด 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง อาจเพิ่มขนาดเป็น 10 มิลลิกรัม วันละครั้งได้หากจำเป็น ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ เริ่มใช้ยาที่ขนาด 2.5 มิลลิกรัม วันละครั้ง
ข้อบ่งใช้สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ เริ่มใช้ยาที่ขนาด 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง อาจเพิ่มขนาดเป็น 10 มิลลิกรัม วันละครั้งได้หากจำเป็น ขนาดการใช้ยาในเด็ก อายุ 6-17 ปี เริ่มใช้ยาที่ขนาด 2.5 มิลลิกรัม วันละครั้ง อาจเพิ่มขนาดเป็น 5 มิลลิกรัม วันละครั้งได้หากจำเป็น ขนาดการใช้ยาในผู้สูงอายุ เริ่มใช้ยาที่ขนาด 2.5 มิลลิกรัม วันละครั้ง
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ตัวยาอาจลดความสามารถในการขับขี่และการทำงานกับเครื่องจักร
ข้อควรระวังของการใช้ยา
- ไม่ใช้ยาผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตต่ำรุนแรง
- ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะช็อก
- ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีการอุดกั้นของหัวใจห้องล่างซ้าย (left ventricle) ได้แก่ การเกิด aortic stenosis
- ไม่ใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว หลังจากการเกิดภาะวหัวใจขาดเลือดแบบเฉียบพลัน
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับ และโรคไต
- ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยสูงอายุ สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา
อาจก่อให้เกิดการง่วงซึมในช่วงกลางวัน มึนงง ปวดศีรษะ ข้อเท้าบวม บวมน้ำ ใบหน้าแดง เมื่อยล้า ใจสั่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้น้อย ได้แก่ ตะคริว หายใจลำบาก การรับประทานยาเกินขนาดอาจก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเนื่องจากหลอดเลือดเกิดการขยายตัวมากเกินไป และอาจเกิดการตอบสนองที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น (reflex tachycardia)
ข้อมูลการใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาหยอดตา ยาฉีด และยารับประทานจัดอยู่ในกลุ่ม category C คือควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรระวังการใช้ยา
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษา
ควรเก็บรักษายาที่อุณหภูมิ 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสงแดด