จากการสำรวจของรัฐบาลพบว่าผู้ใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใช้การแพทย์สนับสนุนหรือการแพทย์ทางเลือก (CAM) รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งถึง 36%
การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือก (Complementary and Alternative Medicine - CAM) คืออะไร ?
การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกคือคำกว้าง ๆ ของการแพทย์และระบบสาธารณสุข กิจกรรม และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแพทย์แผนปัจจุบัน หากรวมการสวดมนต์อธิษฐานเพื่อสุขภาพในนิยามของการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกแล้ว จำนวนของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่ใช้การแพทย์สนับสนุนหรือการแพทย์ทางเลือกจะเพิ่มขึ้นเป็น 62% ในปีที่ผ่านมา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การค้นพบใหม่นี้ยืนยันได้ว่าชาวอเมริกันหันมาใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยรักษาและป้องกันโรคได้ และช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ข้อมูลนี้ไม่เพียงช่วยให้เราเข้าใจว่าใครบ้างที่ใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือก ใช้ในรูปแบบใด เพราะเหตุใด แต่ยังศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกกับสุขภาวะของแต่ละคน เช่น โรคประจำตัวเรื้อรัง การประกันสุขภาพ และสุขนิสัย
การสำรวจเกี่ยวกับการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกโดยรัฐบาลในปี 2002
การสำรวจนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 31,000 คน เป็นตัวแทนผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน ดำเนินการโดยโครงการสำรวจสัมภาษณ์สุขภาพแห่งชาติปี 2002 (National Health Interview Survey) หรือ NHIS ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention) หรือ CDC การสำรวจนี้มีคำถามเกี่ยวกับการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือก 27 รูปแบบที่ใช้กันบ่อยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดคำถามโดยศูนย์การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติและศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติ (NCHS) ของ CDC การแพทย์ทั้ง 27 รูปแบบนี้ประกอบด้วยการรักษาที่ต้องมีผู้ให้การรักษา 10 รูปแบบ เช่น ฝังเข็ม และจัดกระดูก และการรักษาที่ไม่ต้องอาศัยผู้ให้การรักษาอีก 17 แบบ เช่น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์จากพืช) อาหารบางอย่าง และวิตามินบำบัด (megavitamin therapy)
แม้ว่าจะมีการสำรวจเกี่ยวกับการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกมากมาย แต่ก็พูดถึงทางเลือกต่าง ๆ ของการแพทย์ทางเลือกน้อย นอกจากนี้มักจะสำรวจในกลุ่มประชากรขนาดเล็กและใช้การสำรวจทางโทรศัพท์หรืออีเมลแทนการสัมภาษณ์โดยตรง ดังนั้นผลการสำรวจโดยโครงการสำรวจสัมภาษณ์สุขภาพแห่งชาตินั้นเป็นข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้มากที่สุดในปัจจุบันในการอธิบายการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกของผู้ใหญ่อเมริกัน
ผลการสำรวจ
ในภาพรวมการสำรวจพบว่าการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกนั้นมีหลากหลายกลุ่มประชากรทั้งผู้หญิง ผู้ที่มีการศึกษาดี ผู้ที่เคยนอนโรงพยาบาลในปีที่ผ่านมา และผู้ที่เคยสูบบุหรี่เทียบกับผู้ที่ยังสูบอยู่หรือไม่เคยสูบมาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการสำรวจครั้งแรกที่ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกของชนกลุ่มน้อย เช่น พบว่าผู้ใหญ่ชาวแอฟริกัน-อเมริกันมีแนวโน้มที่จะใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกมากกว่าคนขาวหรือชาวเอเชีย หากรวมการสวดมนต์อธิษฐานและวิตามินบำบัดในนิยามของการแพทย์ทางเลือก
เรากำลังขยายข้อมูลสุขภาพที่ศึกษาในประเทศนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนที่ตอบสนองต่อภาวะทางสุขภาพในแบบต่าง ๆ หลายปีที่ผ่านมา เราสนใจการแพทย์แผนโบราณอย่างมาก ข้อมูลของการแพทย์ทางเลือกแขนงนี้จะเข้าสู่มิติใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นคือคนจำนวนมากขึ้นที่เลือกวิถีทางสุขภาพด้วยตัวพวกเขาเอง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
มีการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกอย่างไร
จากการสำรวจพบว่าการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกส่วนใหญ่มักใช้รักษาอาการปวดหลัง ไข้หวัด ปวดคอ ปวดข้อหรือข้อติด และความวิตกกังวลหรือซึมเศร้า อย่างไรก็ตามมีเพียง 12% เท่านั้นที่ใช้การแพทย์ทางเลือกจากผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบการแพทย์ทางเลือกซึ่งบ่งบอกว่าคนส่วนใหญ่ใช้การแพทย์ทางเลือกโดยไม่มีผู้ให้คำแนะนำหรือให้การรักษา
การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกที่ใช้กันส่วนใหญ่
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 10 อันดับของการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกที่ใช้บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกาได้แก่
- สวดมนต์อธิษฐานเพื่อสุขภาพตนเอง 43%
- ผู้อื่นสวดมนต์อธิษฐานให้สุขภาพของตน 24%
- ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (เช่น สมุนไพร สารจากพืช และเอนไซม์) 19%
- ออกกำลังกายด้วยการฝึกหายใจ 12%
- รวมกลุ่มสวดมนต์อธิษฐานเพื่อสุขภาพตนเอง 10%
- ฝึกสมาธิ 8%
- จัดกระดูก 8%
- โยคะ 5%
- นวด 5%
- รักษาด้วยการคุมอาหาร (เช่น แอทกินส์ (Atkins) พริทกิน(Pritikin) ออร์นิช(Ornish) และโซนไดเอท(Zone diets)) 4%
ทำไมคนถึงใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือก
นอกจากรวบรวมข้อมูลการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกแล้ว การสำรวจนี้ยังรวบรวมข้อมูลในเรื่องสาเหตุที่คนใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกด้วย โดยพบว่า
- 55% ของผู้ใหญ่กล่าวว่าเขามักใช้การแพทย์ทางเลือกเพราะว่าสามารถช่วยส่งเสริมเมื่อใช้ร่วมกับการแพทย์แผนแผนปัจจุบันได้
- 50% คิดว่าการแพทย์ทางเลือกเป็นสิ่งน่าสนใจที่จะทดลอง
- 26% ใช้การแพทย์ทางเลือกเพราะแพทย์แผนปัจจุบันแนะนำให้ลองดู
- 13% ใช้การแพทย์ทางเลือกเพราะรู้สึกว่าการแพทย์แผนปัจจุบันนั้นมีราคาสูงเกินไป
และเป็นที่น่าสนใจว่าการสำรวจนี้ยังพบว่าผู้ที่ใช้การแพทย์ทางเลือก 28% เชื่อว่าการแพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ทำให้ปัญหาสุขภาพของเขาดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการศึกษาในอดีตที่คนส่วนใหญ่ยังพึงพอใจในการแพทย์แผนปัจจุบัน
ข้อควรทราบ: ข้อมูลเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาแทนแพทย์ได้ ข้อมูลนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ปฏิกิริยาระหว่างยา พฤติการณ์ หรือผลข้างเคียง คุณควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ในเรื่องปัญหาสุขภาพใด ๆ และปรึกษาแพทย์ก่อนใช้การแพทย์ทางเลือกหรือปรับเปลี่ยนวิธีรักษา
ผลการสำรวจนี้ทำให้เห็นรูปแบบการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกรูปแบบใหม่ในกลุ่มประชากรที่หลากหลาย และเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการวิจัยในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นการสำรวจนี้จะเป็นตัวเปรียบเทียบกับการสำรวจในอนาคต เพราะมีการกำหนดนิยามที่แน่นอนของการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือก จึงสามารถติดตามแนวโน้มและความนิยมการใช้การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกด้วย
ศูนย์การแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) กรมสุขภาพและสวัสดิการมนุษย์ (DHHS) ทำหน้าที่ศึกษาการรักษาด้วยการแพทย์สนับสนุนและการแพทย์ทางเลือกในบริบททางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวด ฝึกอบรมนักวิจัยด้านการแพทย์ทางเลือก และเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและผู้เชี่ยวชาญ
ศูนย์สถิติสุขภาพแห่งชาติเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค มีภารกิจจัดหาข้อมูลทางสถิติเพื่อเป็นแนวทางในการออกนโยบายเพื่อพัฒนาสุขภาพของชาวอเมริกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจะปกป้องสุขภาพและสร้างความปลอดภัยด้วยการป้องกันและควบคุมโรคและอุบัติเหตุ ช่วยเพิ่มการตัดสินใจด้านสุขภาพโดยการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่สำคัญ และส่งเสริมการมีสุขภาพดีผ่านการเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกับองค์กรท้องถิ่นระดับประเทศและระดับนานาชาติ