การตรวจ Allergy Blood Testing จากเลือด ทำเพื่อวินิจฉัยต่อสารก่อภูมิแพ้ นอกจากวิธีนี้แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่แพทย์จะนำมาใช้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับอาการแพ้ของแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถศึกษาได้จากบทความนี้
ชื่ออื่น: Allergy Screen
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ชื่อทางการ: Allergen-Specific IgE Antibody Test
จุดประสงค์ของการตรวจ Allergy Blood Testing
การตรวจ Allergy Blood Testing เป็นการตรวจเลือดที่แพทย์นำมาวินิจฉัยการแพ้ต่อสารบางชนิดหรือสารหลายชนิดสำหรับผู้ที่มีอาการเหมือนโรคภูมิแพ้แบบเฉียบพลันหรือมีอาการเรื้อรัง ปกติแล้ว แพทย์จะใช้วิธีตรวจนี้กับผู้ป่วยที่อาการแพ้กลับมาเกิดซ้ำ หรือเมื่อมีสิ่งที่มากระตุ้น เช่น การรับประทานอาหารบางชนิด การอยู่ในบางสภาวะแวดล้อม และการมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้
นอกเหนือจากการตรวจ Allergy Blood Testing แพทย์อาจใช้วิธีอื่นๆ ในการตรวจหาโรคภูมิแพ้ ดังนี้
- วิธีสะกิดผิว (Skin prick test)
- วิธีขีดข่วน (Scratch Test)
- วิธีฉีดเข้าผิวหนัง (Intradermal Tests)
- การทำ Patch Tests
- การทดสอบการแพ้อาหารที่สงสัยโดยให้ผู้ป่วยลองรับประทาน
หากมีอาการแพ้แบบรุนแรง (Anaphylaxis) ที่สามารถทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ในกรณีเหล่านี้แพทย์จะใช้วิธีการตรวจแบบ Allergen-Specific IgE antibody เพียงอย่างเดียว เพราะเป็นการตรวจจากเลือด ไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อไรที่ต้องตรวจ Allergy Blood Testing?
แพทย์อาจสั่งให้ตรวจ Allergy Blood Testing เมื่อผู้ป่วยมีสัญญาณหรืออาการที่บ่งชี้ว่าแพ้สารหนึ่งชนิดหรือมากกว่านี้ ได้แก่
- ลมพิษ
- ผิวหนังอักเสบ
- ผื่นผิวหนัง
- ดวงตาเป็นสีแดงและคัน
- ไอ คัดจมูก จาม
- หืดหอบ
- คันและชาในปาก
- มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
- ปวดท้องหรืออาเจียน และท้องร่วง
รายละเอียดการตรวจ Allergy blood Testing
Immunoglobulin E (IgE) เป็นกลุ่มของแอนติบอดีที่เกี่ยวข้องกับอาการแพ้ โดยทั่วไปแล้วสามารถพบ IgE ได้เล็กน้อยในเลือด เมื่อร่างกายของคนรับรู้ว่าสารก่อภูมิแพ้เป็นสารแปลกปลอม ก็จะมีการผลิต IgE antibody ที่จำเพาะ ซึ่งจะไปจับกับ Mast cells ในผิว ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร และเม็ดเลือดขาวชนิดเบโซฟิลในกระแสเลือด
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เมื่อรับสารก่อภูมิแพ้ครั้งต่อไป IgE antibodies จะจำสารก่อภูมิแพ้ไว้ ทำให้ Mast cells และเบโซฟิลหลั่งฮีสตามีนและสารเคมีชนิดอื่นๆ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้ทันทีที่ได้รับสารนั้นๆ
การตรวจ IgE ทั้งหมด หรือที่เรียกว่า Total IgE เป็นการวัดจำนวนของ IgE antibodies ในเลือดแบบภาพรวม ในขณะที่การตรวจ IgE แบบจำเพาะ หรือที่เรียกว่า Specific IgE เป็นการวัดการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ของแต่ละคน ซึ่งแพทย์อาจเลือกตรวจจากรายการสารก่อภูมิแพ้ที่คาดว่าทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในแต่ละบุคคล
ความหมายของผลตรวจ
การมี Allergen-specific IgE เพิ่มขึ้น สามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้ที่เข้ารับการตรวจ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ แต่การมีปริมาณของ IgE ที่จำเพาะก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดอาการแพ้ที่ร้ายแรงเสมอไป
ส่วนผลลบ อาจบ่งชี้ได้ว่าผู้ป่วยไม่ได้มีอาการแพ้จริง (True Allergy) ซึ่งแพทย์จะต้องแปลผลอย่างระมัดระวัง เพราะการมีผลลบที่ผิดพลาด (False negatives) และผลบวกที่ผิดพลาด (False positives) สามารถเกิดขึ้นได้
แม้ผลตรวจ IgE จะเป็นลบ แต่ก็ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่ผู้เข้ารับการตรวจจะเป็นโรคภูมิแพ้ ในทำนองเดียวกันหากผลตรวจ IgE ที่จำเพาะเป็นบวก ผู้ที่เข้ารับการตรวจอาจมีหรือไม่มีอาการแพ้ทางกายภาพที่แท้จริงเมื่อได้รับสารนั้นๆ
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการตรวจ Allergy Blood Testing
แม้ว่าเด็กจะหายจากโรคภูมิแพ้บางชนิดได้ แต่ในผู้ใหญ่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้บางประเภทที่ทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรง เช่น ปฏิกิริยา Anaphylaxis ที่เกิดจากถั่วลิสง ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการแพ้ตลอดชีวิต
ที่มาของข้อมูล
Lab Test Online,Allergy Blood Testing (https://labtestsonline.org/tests/allergy-blood-testing), 21 December 2018.