การมีผิวที่ดูเปล่งปลั่งแบบมีสุขภาพดีถือเป็นผิวในฝันของผู้หญิงหลายคนก็ว่าได้ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เผชิญกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ทำให้ผิวของคุณดูไม่สดใส โดยเฉพาะนิสัยหรือไลฟ์สไตล์บางอย่างของคุณ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าปัญหาผิวหมองคล้ำเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
1.ไม่ขัดผิว
นอกจากการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งแล้ว การขัดผิวก็เป็นขั้นตอนสำคัญเช่นกัน ซึ่งการมีผิวแห้งคือสาเหตุทั่วไปที่ทำให้ผิวดูหม่นหมอง อย่างไรก็ดี การขัดผิวจะช่วยให้ผิวของคุณสะอาดหมดจด ทำให้สกินแคร์ที่คุณใช้สามารถซึมสู่ผิวได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่เป็นสูตรอ่อนโยน เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบหรือระคายเคือง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2.ไม่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
นอกเหนือจากการขัดผิวแล้ว ผิวของคุณยังต้องการความชุ่มชื้นด้วยค่ะ ซึ่งมันจะช่วยเติมเต็มรอยแห้งแตกโดยเพิ่มลิพิดให้ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ให้คุณเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมอย่างเซราไมด์ ซึ่งปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิวและลดการคั่งน้ำ และให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งช่วยให้เซลล์ผิวอิ่มเอิบโดยดึงน้ำมายังเนื้อเยื่อรอบๆ นอกจากนี้วิธีทามอยส์เจอไรเซอร์ก็สำคัญเช่นกัน การทาอย่างอ่อนโยนและลูบขึ้นข้างบน สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และกระตุ้นเซลล์รอบๆ ใบหน้าและคอ เมื่อผิวได้รับออกซิเจนมากขึ้น มันก็จะทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี
3.ร่างกายและผิวขาดน้ำ
หากร่างกายขาดน้ำ มันก็จะทำให้เลือดไหลไปยังผิวลดลง ทำให้ผิวดูซีดและป่วย นอกจากนี้การที่ร่างกายตกอยู่ในภาวะขาดน้ำยังทำให้ปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยตามมา คุณจึงดูแก่กว่าวัย ดังนั้นคุณไม่ควรปล่อยให้ร่างกายของตัวเองขาดน้ำ โดยพยายามดื่มน้ำให้เพียงพอ
4.เครียดมาก
ความเครียดไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อผิวอีกด้วย เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่ง ฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมามากขึ้น ซึ่งสามารถส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวและการซ่อมแซมผิว ดังนั้นถ้าอยากมีผิวสวยเปล่งปลั่ง คุณก็ควรหาวิธีคลายเครียด
5.นอนไม่เพียงพอ
สิ่งใดก็ตามที่ทำให้คุณนอนไม่หลับตอนกลางคืนนั้นจะไปขัดขวางไม่ให้คุณมีผิวที่มีสุขภาพดี เพราะช่วงเวลาที่เรานอน เซลล์ผิวของเราจะซ่อมแซมตัวเองและสร้างเซลล์ใหม่ หากเรานอนน้อยเกินไป ผิวก็จะไม่สามารถทำกระบวนการดังกล่าวได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตา ผิวซีด ผิวแห้ง ผิวตกสะเก็ด ผิวขาดน้ำ การผลิตน้ำมัน และการผลัดเซลล์ผิวเปลี่ยนไป
6.อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ
นอกจากนิสัยของคุณจะมีผลต่อสภาพผิวแล้ว สภาพแวดล้อมที่คุณอาศัยก็สามารถทำให้ผิวหมองได้เช่นกัน โดยเฉพาะการสัมผัสกับมลภาวะในอากาศหรือรังสียูวี ซึ่งล้วนแต่ทำลายผิวที่ไม่ได้ทำการป้องกันใดๆ ถ้าคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีควันมาก ทางเดียวที่ช่วยให้ผิวของคุณปลอดภัยคือ การออกกำลังกายค่ะ เพราะมันจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังผิว ทำให้ช่วยแลกเปลี่ยนสารอาหาร และกำจัดสารพิษออกจากเซลล์ผิว
7.สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่สามารถส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อผิวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สารก่อมะเร็งในบุหรี่ทำให้เกิดอันตรายต่อความสมบูรณ์และโครงสร้างของผิว โดยทำให้คอลลาเจนสลายตัว ทำให้ผิวซีด มีลักษณะเหมือนขี้ผึ้งเคลือบ และมีริ้วรอยเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นถ้าเลิกบุหรี่ได้ มันก็จะดีทั้งต่อผิวและสุขภาพของคุณ
8.ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวแมทท์
การแต่งหน้าโดยใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวแมทท์ และการใช้เมคอัพลีมูฟเวอร์ที่มีแอลกอฮอล์ ก็สามารถลดความเปล่งปลั่งของผิว ทางที่ดีให้คุณเปลี่ยนมาใช้ Cold cream สูตรอ่อนโยน และแผ่นเช็ดเมคอัพ ซึ่งมันจะช่วยกำจัดเมคอัพและเติมความชุ่มชื้นไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจไม่ทันคิดว่าบางพฤติกรรมที่เรากล่าวไปก็สามารถทำร้ายผิวได้เช่นกัน หากคุณมีผิวหมองคล้ำ และอยากให้ผิวดูสดใสและเปล่งเปล่งแบบมีสุขภาพดี การพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่เรากล่าวไปก็อาจช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นค่ะ
ที่มา: https://www.goodhousekeeping.c...36993/dull-skin-causes/