4 สิ่งที่ต้องทำก่อนที่จะทำโทษลูกน้อยของคุณ

พฤติกรรมของเด็กเล็กสามารถทำให้เราหมดความอดทนได้ แต่การทำโทษจะเหมาะสมหรือเปล่า
เผยแพร่ครั้งแรก 28 ส.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
4 สิ่งที่ต้องทำก่อนที่จะทำโทษลูกน้อยของคุณ

เด็กเล็กสามารถทำตัวยุ่งยาก หัวดื้อ การสำรวจโลกรอบตัวจัดเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกเขา ซึ่งนั่นหมายความว่าพ่อแม่ต้องวิตกกังวลเรื่องความเสี่ยงต่อสถานการณ์ที่เป็นอันตราย เด็กเล็กยังมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจฟังพ่อแม่ ซึ่งทำให้พัฒนาการในช่วงนี้กลายเป็นเรื่องที่ชวนท้อแท้ได้ แต่ความรู้สึกดังกล่าวมักส่งผลให้เกิดการทำโทษโดยไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสม ต่อไปนี้เป็นแนวทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้พ่อแม่ตัดสินใจได้ว่าการทำโทษจะเป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ว่าจะหลีกเลี่ยงการทำโทษได้อย่างไร

1. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี

วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมแย่ ๆ จากเด็กเล็กคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัย เด็กจะมีอิสระในการสำรวจและเล่นโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหา การตรวจสอบพื้นที่สำหรับเด็กเล่นและเอาของที่อาจเป็นอันตรายหรือของที่บอบบางออกไปเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะลดโอกาสที่เด็กจะถูกทำโทษได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

นอกเหนือจากนี้ การทำให้ชีวิตประจำวันของลูกเล็กกลายเป็นกิจวัตร ทั้งเวลานอนและเวลาเล่นที่เหมาะสม รวมทั้งของว่างและมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้ลูกของคุณมีพฤติกรรมที่เหมาะสมได้ในระยะยาว หากคุณกำลังยุ่งยากกับการแก้ปัญหาเรื่องลูกร้องอาละวาด (tantrum) และปัญหาพฤติกรรมอื่น ๆ การอดนอนและสาเหตุที่เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งแรกที่คุณควรตรวจสอบ

2. เลือกสนามรบของคุณ

เด็กเล็กที่ทำผิดพลาดไม่จำเป็นต้องได้รับการลงโทษเสมอไป แม้ว่าการสอนลูกให้รู้จักถูกผิดจะเป็นหน้าที่ของคุณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหวังผล 100%

หากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย (เช่น การวิ่งหนีจากแม่ในขณะที่อยู่ในลานจอดรถ) การลงโทษก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่หากเป็นบางเรื่องที่ไม่คอขาดบาดตายเท่า เช่น เด็กยืนกรานที่จะใส่ชุดสำหรับวันฮัลโลวีนทั้งปี ก็ลองพิจารณาดูว่ามันคุ้มค่ากับเวลาและพลังงานของคุณหรือไม่ การปล่อยผ่านไม่เพียงแค่ง่ายกว่า แต่ยังมีแนวโน้มที่ความสนใจในพฤติกรรมที่พวกเขาแสดงออกจะลดลงไปหากเด็กไม่ได้รับการตอบสนองจากคุณ

3. มุ่งเน้นพฤติกรรมที่ดี

เด็กเล็กชอบที่จะได้รับความสนใจจากพ่อแม่ และจะทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้มา ซึ่งนั่นหมายความว่าแม้พฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ได้รับความสนใจในทางลบ แต่เด็กเล็กก็ยังมีแนวโน้มที่จะทำมันต่อไป

แม้บางครั้งจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จัดการกับพฤติกรรมแย่ ๆ แต่คุณควรเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่น่าเป็นกังวลมากนัก กล่าวชมและให้ความรับรู้พฤติกรรมที่ดีของเด็ก (เช่น การแบ่งปันของเล่นกับเพื่อนหรือช่วยทำความสะอาด) หากเด็กรู้ว่าเขาจะได้รับความสนใจจากคุณจากพฤติกรรมในเชิงบวก คุณก็มีแนวโน้มที่จะได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวมากขึ้น

4. ใช้เวลาแยกตัว (time out) สำหรับพ่อแม่

แม้ว่าการจับแยก (time out หรือ การนำเด็กออกไปจากสิ่งกระตุ้นหรือความสนใจจากสิ่งรอบข้างชั่วคราว เพื่อให้เด็กสงบและควบคุมตนเองได้-หมายเหตุผู้แปล) จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการลงโทษเด็กเล็ก (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปราศจากข้อโต้แย้งก็ตาม) แต่บางครั้ง ผู้ที่ต้องการการจับแยกคือแม่หรือพ่อนั่นเอง การเลี้ยงเด็กเล็กอาจเป็นประสบการณ์ตึงเครียด และเด็กเล็กก็เป็นเซียนในการกระตุ้นอารมณ์พ่อแม่ บางครั้ง เมื่อคุณรู้สึกว่าความดันกำลังพุ่งและควบคุมสถานการณ์ได้น้อยลง ลูกของคุณก็จะยิ่งทำให้หมดพลังงานได้มากขึ้น และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น แม้แต่เหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถกลายเป็นเรื่องแตกหักได้

หากเป็นไปได้ ให้เวลาแยกตัวเองก่อนที่การลงโทษจะจบลง บางครั้งอาจเป็นแค่เรื่องเล็ก โดยให้ผู้ใหญ่อีกคนในบ้านช่วยดูแลเด็กแทนเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือหากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ การนำเด็กไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย (เช่น คอกนอนพร้อมกับของเล่นพอสมควร) และให้เวลาพักสิบนาทีสำหรับตัวคุณเอง การหายใจเข้าออกลึก ๆ และทำให้หัวของคุณปลอดโปร่งจะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับความสามารถในการตัดสินใจว่าการลงโทษนั้นเป็นเรื่องจำเป็นหรือไม่


8 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ลดความกังวลของเด็กในวันแข่งกีฬา
ลดความกังวลของเด็กในวันแข่งกีฬา

รู้สึกไม่มั่นใจในวันแข่งขัน? นี่เป็นวิธีที่สามารถช่วยลดความวิตกกังวลในการเล่นกีฬา

อ่านเพิ่ม
8 อาการอันตรายอะไรที่ต้องรีบพาทารกน้อยไปพบแพทย์?
8 อาการอันตรายอะไรที่ต้องรีบพาทารกน้อยไปพบแพทย์?

"คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องรู้! 8 อาการอันตรายที่หากทารกหรือลูกของคุณเป็นแล้ว ต้องรีบพาไปพบแพทย์โดยด่วน "

อ่านเพิ่ม