เด็กเล็กสามารถทำตัวยุ่งยาก หัวดื้อ การสำรวจโลกรอบตัวจัดเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกเขา ซึ่งนั่นหมายความว่าพ่อแม่ต้องวิตกกังวลเรื่องความเสี่ยงต่อสถานการณ์ที่เป็นอันตราย เด็กเล็กยังมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจฟังพ่อแม่ ซึ่งทำให้พัฒนาการในช่วงนี้กลายเป็นเรื่องที่ชวนท้อแท้ได้ แต่ความรู้สึกดังกล่าวมักส่งผลให้เกิดการทำโทษโดยไม่จำเป็นหรือไม่เหมาะสม ต่อไปนี้เป็นแนวทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้พ่อแม่ตัดสินใจได้ว่าการทำโทษจะเป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ว่าจะหลีกเลี่ยงการทำโทษได้อย่างไร
1. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมพฤติกรรมที่ดี
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมแย่ ๆ จากเด็กเล็กคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัย เด็กจะมีอิสระในการสำรวจและเล่นโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหา การตรวจสอบพื้นที่สำหรับเด็กเล่นและเอาของที่อาจเป็นอันตรายหรือของที่บอบบางออกไปเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะลดโอกาสที่เด็กจะถูกทำโทษได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกเหนือจากนี้ การทำให้ชีวิตประจำวันของลูกเล็กกลายเป็นกิจวัตร ทั้งเวลานอนและเวลาเล่นที่เหมาะสม รวมทั้งของว่างและมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยให้ลูกของคุณมีพฤติกรรมที่เหมาะสมได้ในระยะยาว หากคุณกำลังยุ่งยากกับการแก้ปัญหาเรื่องลูกร้องอาละวาด (tantrum) และปัญหาพฤติกรรมอื่น ๆ การอดนอนและสาเหตุที่เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งแรกที่คุณควรตรวจสอบ
2. เลือกสนามรบของคุณ
เด็กเล็กที่ทำผิดพลาดไม่จำเป็นต้องได้รับการลงโทษเสมอไป แม้ว่าการสอนลูกให้รู้จักถูกผิดจะเป็นหน้าที่ของคุณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหวังผล 100%
หากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย (เช่น การวิ่งหนีจากแม่ในขณะที่อยู่ในลานจอดรถ) การลงโทษก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง แต่หากเป็นบางเรื่องที่ไม่คอขาดบาดตายเท่า เช่น เด็กยืนกรานที่จะใส่ชุดสำหรับวันฮัลโลวีนทั้งปี ก็ลองพิจารณาดูว่ามันคุ้มค่ากับเวลาและพลังงานของคุณหรือไม่ การปล่อยผ่านไม่เพียงแค่ง่ายกว่า แต่ยังมีแนวโน้มที่ความสนใจในพฤติกรรมที่พวกเขาแสดงออกจะลดลงไปหากเด็กไม่ได้รับการตอบสนองจากคุณ
3. มุ่งเน้นพฤติกรรมที่ดี
เด็กเล็กชอบที่จะได้รับความสนใจจากพ่อแม่ และจะทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้มา ซึ่งนั่นหมายความว่าแม้พฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ได้รับความสนใจในทางลบ แต่เด็กเล็กก็ยังมีแนวโน้มที่จะทำมันต่อไป
แม้บางครั้งจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จัดการกับพฤติกรรมแย่ ๆ แต่คุณควรเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่น่าเป็นกังวลมากนัก กล่าวชมและให้ความรับรู้พฤติกรรมที่ดีของเด็ก (เช่น การแบ่งปันของเล่นกับเพื่อนหรือช่วยทำความสะอาด) หากเด็กรู้ว่าเขาจะได้รับความสนใจจากคุณจากพฤติกรรมในเชิงบวก คุณก็มีแนวโน้มที่จะได้เห็นพฤติกรรมดังกล่าวมากขึ้น
4. ใช้เวลาแยกตัว (time out) สำหรับพ่อแม่
แม้ว่าการจับแยก (time out หรือ การนำเด็กออกไปจากสิ่งกระตุ้นหรือความสนใจจากสิ่งรอบข้างชั่วคราว เพื่อให้เด็กสงบและควบคุมตนเองได้-หมายเหตุผู้แปล) จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการลงโทษเด็กเล็ก (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปราศจากข้อโต้แย้งก็ตาม) แต่บางครั้ง ผู้ที่ต้องการการจับแยกคือแม่หรือพ่อนั่นเอง การเลี้ยงเด็กเล็กอาจเป็นประสบการณ์ตึงเครียด และเด็กเล็กก็เป็นเซียนในการกระตุ้นอารมณ์พ่อแม่ บางครั้ง เมื่อคุณรู้สึกว่าความดันกำลังพุ่งและควบคุมสถานการณ์ได้น้อยลง ลูกของคุณก็จะยิ่งทำให้หมดพลังงานได้มากขึ้น และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น แม้แต่เหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถกลายเป็นเรื่องแตกหักได้
หากเป็นไปได้ ให้เวลาแยกตัวเองก่อนที่การลงโทษจะจบลง บางครั้งอาจเป็นแค่เรื่องเล็ก โดยให้ผู้ใหญ่อีกคนในบ้านช่วยดูแลเด็กแทนเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือหากไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ การนำเด็กไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย (เช่น คอกนอนพร้อมกับของเล่นพอสมควร) และให้เวลาพักสิบนาทีสำหรับตัวคุณเอง การหายใจเข้าออกลึก ๆ และทำให้หัวของคุณปลอดโปร่งจะสร้างความมหัศจรรย์ให้กับความสามารถในการตัดสินใจว่าการลงโทษนั้นเป็นเรื่องจำเป็นหรือไม่