เมื่อพูดถึงภาวะเลือดคั่งในสมอง หลายคนต้องนึกถึงอาการฉุกเฉินร้ายแรงที่ต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนและมักลงเอยด้วยการผ่าตัดสมอง
แต่เมื่อถามถึงที่มาที่ไปของภาวะนี้ ยังมีหลายคนที่ไม่ทราบว่า มันเกิดจากอะไร แล้วรักษาให้หายได้หรือไม่
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ความหมายของภาวะเลือดคั่งในสมอง
ภาวะเลือดออกในสมอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ภาวะเลือดคั่งในสมอง”(Intracerebral Hemorrhage) คือ ภาวะที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยเกิดจากหลอดเลือดในสมองฉีกขาด ทำให้มีเลือดออกในสมองจนสร้างความเสียหายต่อสมองและระบบประสาท
เมื่อเกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการแสดงออกมาดังต่อไปนี้
- อ่อนเพลียอย่างกะทันหัน
- มีอาการสับสนเฉียบพลัน ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ ทั้งการพูด อ่าน ฟัง หรือเขียน
- ปวดศีรษะและวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
- การมองเห็นพร่าเบลอ
- คลื่นไส้อาเจียน
- ปากเบี้ยว
- พูดลำบาก
- กลืนอาหารลำบาก
- แขน ขาเป็นอัมพาต
- เสียการทรงตัว ไม่สามารถยืน หรือเดินได้
นอกจากอาการแสดงที่กล่าวไปข้างต้น ผู้ป่วยยังอาจเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงได้อีก เช่น มองไม่เห็นเลย สมองบวม อารมณ์แปรปรวน หรือซึมเศร้า มีไข้สูง ความทรงจำเลอะเลือน ปอดบวม เป็นอัมพาต
หากคุณพบว่า คนใกล้ตัวมีอาการคล้ายกับเป็นภาวะเลือดคั่งในสมองควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพราะยิ่งมีเลือดออกในสมองมากเท่าไหร่ ก็มีความเสี่ยงที่เลือดจะไปขับแรงดันในโพรงกะโหลกให้สูงขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
สาเหตุของภาวะเลือดคั่งในสมอง
ความเสื่อมของหลอดเลือดตามวัยมักเป็นสาเหตุหลักของภาวะเลือดคั่งในสมอง จึงมักพบโรคนี้มากในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไป แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นที่สามารถทำให้เกิดภาวะนี้ได้อีก เช่น
- อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรง
- โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
- โรคหลอดเลือดสมองโป่ง (Ruptured cerebral aneurysm)
- โรคเนื้องอกสมอง (Brain tumor)
- โรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ หรือโรคเอวีเอ็ม (Arteriovenous Malformation: AVM)
- มีการใช้ยาเจือจางเลือด (Blood thinners) หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ใช้ยาเสพติด เช่น สารโคเคน หรือยาบ้า (Methamphetamine)
- โรคที่มีอาการแสดงเป็นอาการเลือดออก เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
- พฤติกรรมดื่มสุรา สูบบุหรี่ ซึ่งมีส่วนทำให้ความดันโลหิตสูง ร่างกายได้รับสารพิษที่เข้าไปทำลายระบบต่างๆ ของร่างกาย
การรักษาภาวะเลือดคั่งในสมอง
เมื่อเกิดภาวะเลือดคั่งในสมอง ผู้ป่วยจะต้องรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วนภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ โดยวิธีรักษาสำคัญของภาวะนี้คือ การผ่าตัด เพื่อนำก้อนเลือดที่ออกในสมองออก และเพื่อรักษาหลอดเลือดสมองส่วนที่ฉีกขาด
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้แพทย์อาจจ่ายยาควบคุมความดันโลหิต เพื่อลดความดันเลือดในกะโหลกศีรษะ รวมถึงลดอาการสมองบวม และอาจจ่ายยากันชัก หากผู้ป่วยมีอาการชักเกร็งเกิดขึ้น
ภายหลังการรักษาแบบฉุกเฉินแล้ว แพทย์จะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูสภาพร่างกายผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากสมอง เช่น การทำกายภาพบำบัด หากผู้ป่วยเป็นอัมพาต หรือเคลื่อนไหวร่างกายซีกใดซีกหนึ่งไม่ได้ การฝึกพูด หากผู้ป่วยพูดไม่ชัด
ค่าใช้จ่ายในการรักษาภาวะเลือดคั่งในสมองอาจสูง และต้องจ่ายเป็นระยะยาว นอกจากกระบวนการผ่าตัดเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากภาวะฉุกเฉินแล้ว ยังต้องมีการทำกายภาพบำบัด และฟื้นฟูร่างกายในส่วนอื่นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อีก
วิธีป้องกันภาวะเลือดคั่งในสมอง
ภาวะเลือดคั่งในสมองมักเกิดจากโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือด และสมอง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม
ดังนั้นเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคนี้ คุณจึงปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- งดเสพยาเสพติด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ
- หมั่นออกกำลังกาย
- พักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ
- หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง ให้หมั่นไปตรวจสุขภาพ และอาการของโรคกับแพทย์เป็นประจำ รวมถึงรักษาอาการของโรคนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย เช่น ตรวจหัวใจ
- ระมัดระวังการเดิน การเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ หรือหากต้องนั่งมอเตอร์ไซด์ควรสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง
ภาวะเลือดคั่งในสมองเป็นภาวะอันตรายร้ายแรงที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วย และอาจเสียชีวิตได้หากรับการรักษาไม่ทันเวลา ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นภาวะนี้จึงต้องรักษาสุขภาพให้ดี
หากมีโรคประจำตัวก็ควรหมั่นไปตรวจอาการกับแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามกลายเป็นภาวะเลือดคั่งในสมองได้
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสมอง จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android