โรคแอกทินิกเคอราโทซิส (Actinic Keratosis) คือการโตของแผ่นผิวหนังหยาบเป็นเกล็ดๆ ที่สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งผิวหนังได้หากปล่อยทิ้งไว้และไม่ได้รับการรักษา
อาการแสดงของ Actinic Keratosis
Actinic Keratosis มักเกิดบริเวณที่ผิวหนังโดนแสงบ่อยๆ เช่น ศีรษะ หน้า มือ ต้นแขน หัวไหล่ และคอ โรคจะเริ่มจากบริเวณเล็กๆ โดยอาจสัมผัสได้ถึงความผิดปกติก่อนจะเห็นเป็นแผ่นผิวหนัง เนื่องจากจะมีผิวสัมผัสที่หยาบกว่าบริเวณผิวหนังรอบๆ อย่างมาก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ผิวที่เป็นโรคจะค่อยๆ ขยายขนาดจนมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 0.25 นิ้ว และมีสีแดง แทน น้ำตาล หรือชมพู อาจมีอาการคันร่วมด้วย ไปจนถึงเจ็บหรือรู้สึกแปลบๆ แถมอาจอักเสบหรือมีเลือดออกได้ด้วย ปัจจุบันการศึกษาพบว่าประมาณ 10% ของคนที่เป็นโรค Actinic keratosis จะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดที่เรียกว่ามะเร็งเซลล์สความมอส (Squamous cell carcinoma) โดยมะเร็งผิวหนังชนิดนี้จะต่างจากมะเร็งเบซาลเซลล์ (Basal cell carcinoma) ตรงที่จะมีการกระจายอย่างรวดเร็วและยังสามารถรุกล้ำเนื้อเยื่อข้างเคียงได้ ในบางกรณีที่พบได้ยากอาจกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรค Actinic Keratosis
Actinic keratosis เกิดจากการโดยแสงแดดเป็นเวลานานเป็นปีๆ โดยรังสีอัลตร้าไวโอเลตจากแสงแดดจะไปทำลายเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ที่ประกอบเป็น 90% ของผิวหนังชั้นนอกสุด (Epidermis)
บุคคลต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงเป็น Actinic keratosis ได้มากกว่าปกติ
- ผู้สูงอายุ การโดนแสงแดดสะสมมาทั้งชีวิต ทำให้มีโอกาสเกิดโรค Actinic keratosis มากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยมักจะพบในคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป และทุกคนที่อายุมากกว่า 80 ปีมีโอกาสเกิดโรคนี้ขึ้นสักที่หนึ่งบนร่างกายเป็นอย่างต่ำ
- คนที่มีเม็ดสีในผิวหนังน้อย คนที่มีผิวขาวมีความเสี่ยงเกิดโรคมากกว่า เนื่องจากการมีเม็ดสีที่ช่วยป้องกันน้อยกว่า และมีโอกาสไหม้แดดมากกว่า หากคุณมีผมทองหรือผมแดง หรือตาฟ้า เขียวหรือเทาจะมีความเสี่ยงสูง
- คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากระบบภูมิคุ้มกันโดนกดการทำงานจากการเป็นโรคหรือการใช้ยารักษา ร่างกายจะซ่อมแซมการทำลายจากแสงแดดได้น้อยลง ผู้ที่ทำเคมีบำบัดรักษามะเร็ง ผู้ที่รับประทานยากดภูมิเพื่อการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ติดไวรัสเอชไอวีจึงมักมีความเสี่ยงสูง
การรักษาโรค Actinic Keratosis
การรักษาโรค Actinic keratosis มีหลายวิธี ดังนี้
- การผ่าตัดด้วยความเย็น (Cryosurgery) แพทย์จะยับยั้งการโตของโรคด้วยการแช่แข็งด้วยไนโตรเจนเหลวหรือสารที่ให้ความเย็นจัดอื่นๆ แผ่นผิวหนังที่ถูกแช่แข็งจะตายและค่อยๆ หลุดลอกออกมา จากนั้นจะนำผิวหนังดีมาทดแทน การรักษาด้วยวิธีนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
- การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ (Laser surgery) แพทย์จะใช้ลำแสงเลเซอร์เพื่อยั้บยั้งการโตของโรค เทคนิคนี้ต้องใช้ความแม่นยำ และมีประโยชน์สำหรับรอยโรคที่อยู่ในบริเวณแคบๆ โดยเฉพาะบนใบหน้า
- การลอกผิวด้วยสารเคมี คือการใช้กรดช่วยให้แผลแข็งๆ หลุดลอกออกและทดแทนด้วยผิวหนังใหม่
- ยาทา ครีมทาผิวเฉพาะที่จะจัดการกับการโตของโรคด้วยการกำจัดเซลล์ที่ถูกทำลายหรือกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มากำจัด ยาส่วนใหญ่มักต้องใช้เป็นเวลานาน มีผลข้างเคียงทำให้ผิวแดงและสร้างความไม่สบายเล็กน้อย แต่ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษามาก
- การบำบัดด้วยแสง (Photodynamic therapy) จะมีการใช้สารละลายที่ตอบสนองกับแสงแดดทาบนแผล เมื่อผิวหนังโดนแสงแดดแรงๆ สารนี้จะถูกกระตุ้นให้ทำลายรอยโรค
- การผ่าตัดกำจัดรอยโรค แพทย์จะใช้มีดผ่าตัดผ่ารอยโรคออกไป
ในการรักษา แพทย์มักใช้หลายวิธีร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่ารอยโรค Actinic keratosis ถูกกำจัดออกจนหมด
วิธีป้องกันโรค Actinic keratosis
การป้องกันโรค Actinic keratosis ทำได้เช่นเดียวกับมะเร็งผิวหนัง โดยเน้นลดการโดนแสงแดด มีคำแนะนำดังนี้
- อยู่ในที่ร่มหรือใต้ร่มเงาในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงที่สุด ซึ่งมักเป็นช่วงระหว่าง 10.00-16.00 น.
- ป้องกันผิวด้วยการสวมเสื้อแขนยาวขายาว และหมวกปีกกว้าง
- ทาครีมกันแดดเมื่อออกไปข้างนอกแม้ในวันที่มีเมฆมาก เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ และควรทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
ถ้าเราโดดแดดเป็นเวลานานๆจะมีผลต่อการทำลายเซลล์ผิวหนังได้มากน้อยแค่ไหนครับ