วิวัฒนาการของสุขภาพทางระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง
นับตั้งแต่ Margaret Sanger ชักจูงให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อ Gregory Pincus สร้างยาคุมกำเนิดที่ทำให้ผู้หญิงมีอิสระทางเพศมากขึ้น สุขภาพของระบบสืบพันธุ์ในผู้หญิงก็มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน ผู้หญิงมีหลายทางเลือกสำหรับการคุมกำเนิด (ทั้งยากิน การใส่ห่วงคุมกำเนิด ถุงยางอนามัยสตรี และหมวกครอบปากมดลูก-diaphragms) และมีการให้ความสนใจกับผู้หญิงที่ต้องการจะควบคุมการให้กำเนิดบุตรเมื่อถึงวัยและเวลาที่เหมาะสม การทำเด็กหลอดแก้ว (in vitro fertilization) สร้างความหวังให้แก่ผู้หญิงที่มีบุตรยาก แต่ในตอนนี้ยังมีความหวังยิ่งกว่านั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะตั้งครรภ์เองจนครบกำหนด เร็ว ๆ นี้ที่สวีเดน มีการแสดงให้เห็นว่าการปลูกถ่ายมดลูกทำให้การตั้งครรภ์ดีขึ้นได้ และการรักษาในระยะทดลองรายแรกก็กำลังทำอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ในช่วงปีแรกหลังจากการปลูกถ่ายจะใช้ไปกับการทำให้แน่ใจว่าร่างกายไม่ต่อต้านมดลูกที่ปลูกถ่ายเข้าไป นั่นหมายถึงยาที่ใช้รักษาและยาที่ใช้ต้านการต่อต้านของร่างกายจำนวนมาก หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน จะใช้การทำเด็กหลอดแก้วเพื่อทำให้เกิดการตั้งครรภ์ในมดลูกที่ปลูกถ่าย ซึ่งทำให้ผู้หญิงสามารถตั้งครรภ์ได้เองจนครบกำหนด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การปลูกถ่ายมดลูก (Uterus transplant) คืออะไร
การปลูกถ่ายมดลูก (uterus transplant หรือ womb transplant) เป็นการรักษาล่าสุดของการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ อ้างอิงจาก NY Times ระหว่างการรักษาด้วยยาและการผ่าตัดปลูกถ่าย หากเป็นการผ่าตัดปลูกถ่ายมดลูก มดลูกที่มีสุขภาพดีจะได้รับการปลูกถ่ายลงในร่างกายของผู้หญิงอีกคน และคงอยู่อย่างนั้นไปอีกเป็นเวลาสองปี เป้าหมายคือเพื่อช่วยให้ผู้หญิงที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เนื่องจากไม่มีมดลูกที่ดีสามารถมีบุตรได้
ใครที่เหมาะสม
ผู้หญิงที่ไม่มีมดลูกจัดว่าเหมาะสมสำหรับการปลูกถ่ายชั่วคราว ไม่ว่าเธอจะสูญเสียมดลูกจากการถูกทำลาย การเจ็บป่วย หรือภาวะโรคที่รู้จักกันในชื่อ Mayer-Rokitansky - Küster-Hauser syndrome การปลูกถ่ายนี้เหมือนกับการเช่าระบบสืบพันธุ์มากกว่าที่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะยาว
ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 21-45 ปีจัดว่าเหมาะสม แต่ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี จะต้องผ่านการรักษาการมีบุตรยาก และได้แช่แข็งไข่ของตัวเองเอาไว้ก่อนที่พวกเธอจะมีอายุ 39 ปีแล้ว
กระบวนการ
เนื่องจากมดลูกที่ปลูกถ่ายมาจะไม่เชื่อมต่อกับท่อนำไข่เดิม จึงไม่มีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์หากไม่ใช้การทำเด็กหลอดแก้วร่วมด้วย
นั่นหมายความว่าก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้รับการผ่าตัด เธอต้องมีตัวอ่อนแช่แข็งเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว หลังจากที่ตัวอ่อนผ่านเกณฑ์แล้ว แพทย์จะหามดลูกที่ได้รับบริจาค ศัลยแพทย์จะเชื่อมต่อมดลูกที่ได้รับบริจาคมาเข้ากับช่องคลอดของผู้รับบริจาค ในสวีเดน มดลูกที่ได้รับมาทั้งหมดมาจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสหรัฐอเมริกา ศัลยแพทย์จะนำมดลูกมาจากผู้บริจาคร่างกาย โดยมีเวลาระหว่าง 6-8 ชั่วโมงในการปลูกถ่ายมดลูกเข้าในร่างกายของผู้หญิง
หากการผ่าตัดประสบความสำเร็จ ผู้รับบริจาคจะรออีกปีก่อนที่จะทำเด็กหลอดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องใช้ยาระงับการต่อต้านจากร่างกายไปจนกว่าเธอจะคลอด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด
การปลูกถ่ายมดลูกและการให้กำเนิดที่สำเร็จเป็นรายแรกเกิดขึ้นในสวีเดนเมื่อปีที่แล้ว ในปี 2014 ผู้หญิงอายุ 36 ปีที่เกิดมาโดยไม่มีมดลูก ได้รับบริจาคมดลูกมาจากเพื่อนที่หมดประจำเดือนไปแล้ว ในตอนนี้ มีการปลูกถ่ายมดลูก 9 รายแล้วในสวีเดน และเด็กทารกที่แข็งแรง 4 คนได้เกิดมา ถึงแม้ว่าจะเป็นการคลอดก่อนกำหนด และเด็กคนที่ห้าก็น่าจะคลอดในเดือนมกราคมนี้
ในขณะนี้ศัลยแพทย์เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมากกว่า 50,000 คนในสหรัฐอเมริกาที่อยากมีลูก 1-2 คน การปลูกถ่ายมดลูกเปิดโลกใบใหม่แห่งความเป็นไปได้สำหรับการตั้งครรภ์ รวมถึงความเป็นไปได้ในสตรีและบุรุษข้ามเพศที่จะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรอีกด้วย
น่าตื่นเต้นจริง ๆ คุณว่ามั้ย ?