ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ในแต่ละวันผิวหน้าของคุณล้วนแต่ต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกมากมายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นควัน แบคทีเรียจากการสัมผัส รวมไปถึงการสั่งสมของเครื่องสำอางและครีมกันแดด ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าขึ้น
การล้างหน้าให้สะอาด จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ เพื่อจะได้ขจัดและชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่บนหน้าตลอดวันออกอย่างหมดจด
ทำไมต้องล้างหน้า และการล้างหน้าสำคัญอย่างไร?
ในหนึ่งวัน ผิวหน้าของคุณต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นมลพิษ ฝุ่นละออง เชื้อโรคต่างๆ
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสิ่งที่ถูกผลิตจากร่างกายของเราเอง เช่น เหงื่อ ไขมันที่ถูกผลิตจากต่อมไขมันที่ผิวหนัง (Sebum) เซลล์ผิวชั้นบนที่สิ้นอายุขัยหลุดลอกออกมาหรือขี้ไคล
สิ่งเหล่านี้ล้วนสะสมอยู่ในรูขุมขนบนผิวหน้าตลอดวัน ซึ่งหากไม่ชำระล้างให้สะอาด หรือทำความสะอาดผิดวิธี ย่อมก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา เช่น ผิวหน้าหมองคล้ำ การอุดตันซึ่งนำมาสู่ปัญหาสิวในที่สุด
นอกจากการล้างหน้าจะเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว การล้างหน้าอย่างถูกวิธียังเป็นการปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่างๆ ตลอดจนช่วยให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการล้างหน้า ที่ไม่ควรมองข้าม
การล้างหน้าให้ถูกวิธี ไม่ใช่เรื่องยากหรือวุ่นวายอย่างที่คิด แต่ก่อนอื่นต้องปรับความเข้าใจเกี่ยวกับการล้างหน้าให้ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
1. ล้างหน้าบ่อยเกินไปไม่ดี
หลายคนเคยชินกับนิสัยการล้างหน้าทั้งวัน เพราะคิดว่ายิ่งหน้าไม่สะอาดมากเท่าไร ยิ่งเจอมลพิษหรือสิ่งสกปรกมากเท่าไร ยิ่งควรล้างให้หน้าสะอาดอยู่เสมอ
พฤติกรรมดังกล่าวนี้ หากใครทำอยู่ควรเลิกโดยเด็ดขาด เพราะการล้างหน้าบ่อยทำให้เกิดการชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติของผิวหน้าออกไป ทำให้ผิวหน้าแห้ง
จากนั้นร่างกายจะตอบสนองโดยการผลิตน้ำมันขึ้นมามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว
โดยปกติคุณควรล้างหน้าวันละไม่เกิน 2 ครั้ง ช่วงเช้าและเย็น เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ตามแต่ปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
2. สบู่ โฟมล้างหน้า โทนเนอร์จำเป็นหรือไม่?
การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสามารถชำระล้างคราบเหงื่อและฝุ่นละอองต่างๆ ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถชำระล้างน้ำมันที่ร่างกายผลิต ตลอดจนน้ำมันที่เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางและครีมบำรุงต่างๆ ออกได้หมด
ซึ่งหากไม่ชำระล้างน้ำมันเหล่านี้ จะก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนอันเป็นสาเหตุของปัญหาสิว แต่ในบางคนที่ไม่ได้ผิวมันมาก สามารถล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าได้ในช่วงเช้า
อย่างไรก็ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อผิวหน้าโดยเฉพาะ ไม่ควรเลือกใช้สบู่ที่ใช้ทำความสะอาดตัวมาทำความสะอาดหน้า เพราะผลิตภัณฑ์ล้างหน้าจะใช้ส่วนผสมของสารชะล้าง (Surfactant) ที่อ่อนโยนและคุณภาพดีกว่า
นอกจากนี้มีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่หลายคนสงสัยว่าจำเป็นหรือไม่ อย่าง โทนเนอร์ (Toner) การใช้ขึ้นอยู่กับเหตุผลและความคาดหวังในการดูแลผิวหน้า
หน้าที่หลักๆ ของโทนเนอร์คือ ช่วยขจัดความมันตกค้าง ช่วยกระชับรูขุมขน ตลอดจนปรับสภาพผิวก่อนการบำรุง
ดังนั้นหากเป็นผู้ที่มีความต้องการในการดูแลปัญหาเหล่านี้ สามารถใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้าได้ แต่ไม่สามารถใช้แทนสบู่หรือโฟมล้างหน้าได้
ทั้งนี้การเลือกโทนเนอร์ควรเลือกที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ควรเลือกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
3. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต้องเหมาะกับสภาพผิว
หลายคนมักจะเลือกสบู่ล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจากคำแนะนำหรือความนิยม แต่แท้จริงแล้ว สภาพผิวแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองเป็นหลัก
เช่น สำหรับคนผิวแห้ง ร่างกายมักมีการผลิตน้ำมันได้น้อย ก็ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้ามัน เนื่องจากจะผสมสารชะล้างปริมาณมากกว่าและมักผสมกรดไฮดรอกซี (Hydroxy acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดไขมันส่วนเกินในรูขุมขนและบนผิวหนัง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแห้งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บางคนอาจชอบใช้ผลิตภัณฑ์สครับ (Scrub) ที่มีคุณสมบัติช่วยขัดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีข้อดีในการช่วยผลัดผิวให้ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แต่ควรใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ไม่ควรใช้ทุกวันหรือใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคืองได้
4. อย่ามองข้ามอุณหภูมิของน้ำ
มีความเชื่อกันว่าการใช้น้ำร้อนๆ ล้างหน้า ช่วยให้รูขุมขนขยาย ทำให้สามารถล้างหน้าได้สะอาดมากยิ่งขึ้น
แต่จริงๆ แล้วการใช้น้ำร้อนทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น และในผู้ที่เป็นสิวอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
อย่างไรก็ดี หากใช้น้ำเย็นจัดล้างหน้า ก็อาจทำให้ผิวเสียสมดุลได้เช่นกัน
ดังนั้น การล้างหน้าจึงควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หรือการใช้น้ำอุ่นล้าง
ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธี
หลังจากทราบแล้วว่าปัจจัยใดบ้างที่ควรคำนึงถึงในการล้างหน้า มาถึงขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธีนั้นสามารถปฏิบัติตามได้ดังต่อไปนี้
1. ล้างหน้ามือก่อนการล้างหน้าทุกครั้ง
แน่นอนว่าก่อนที่จะทำความสะอาดหน้าได้ สิ่งที่ใช้ล้างหน้าอย่างมือของเรา ควรที่จะต้องสะอาดเสียก่อน
2. ล้างเครื่องสำอางออกก่อน
ผู้ที่แต่งหน้า ก่อนที่จะเริ่มสู่ขั้นตอนการล้างหน้า ควรเช็ดหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ลบเครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิวออกก่อนทุกครั้ง
เพราะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าทั่วไปอาจไม่สามารถขจัดเครื่องสำอางออกได้หมดจด
3. ชโลมหน้าเบาๆ ด้วยน้ำอุ่นๆ หรือน้ำอุณหภูมิปกติ
เพื่อชำระคราบเหงื่อไคล และฝุ่นละอองที่เกาะติดอยู่บนผิวหน้า
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
เพื่อชำระล้างคราบน้ำมันตามรู้ขุมขน ควรการนวดเบาๆ ไปบนใบหน้าตามแนวรูขุมขน ใช้เวลาประมาณ 15-20 วินาที
5. ปิดท้ายด้วยล้างน้ำเปล่า
โดยต้องมั่นใจว่าล้างผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจนหมด เพื่อไม่ให้เกิดการตกค้างของสารเคมี หลังจากนั้นควรซับหน้าด้วยผ้าสะอาดเบาๆ ก่อนลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่อไป
จะเห็นได้ว่า การล้างหน้าไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องปรับความเข้าใจและให้เวลากับการล้างหน้ามากขึ้น
สิ่งสำคัญคือไม่ว่าคุณจะดูแลผิวหน้าด้วยครีมบำรุงหรือวิธีต่างๆ มากแค่ไหน แต่หากขั้นตอนพื้นฐานสำคัญอย่างการล้างหน้าถูกละเลยหรือทำไม่ถูกวิธี ก็ย่อมทำให้ผิวหน้าของคุณขาดความแข็งแรงและอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้ในที่สุด