เทคนิคแก้อาการ "เสพติดกาแฟ" ด้วยการปรับพฤติกรรมง่ายๆ ที่คุณก็เลิกได้

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
เทคนิคแก้อาการ "เสพติดกาแฟ" ด้วยการปรับพฤติกรรมง่ายๆ ที่คุณก็เลิกได้

อาการติดกาแฟ หรือการติดคาเฟอีน มักเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป ซึ่งจะส่งผลให้ สภาพจิตใจย่ำแย่และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ เช่น กระดูกพรุน โรคตับ โรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีจึงควรที่จะ ลด ละ หรือเลิกไปเลยด้วยวิธีดังต่อไปนี้

10 เทคนิคช่วยเลิก ติดกาแฟ

1. ค่อยๆลดกาแฟลง

สำหรับคนที่ติดกาแฟ ดื่มได้มากถึงวันละ 3-4 แก้ว อย่าเลิกดื่มกระทันหันเด็ดขาดเพราะจะยิ่งแย่กว่าเดิมอาจลงแดงกาแฟได้ เพราะคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับยาเสพติด เพียงแต่รุนแรงน้อยกว่าเท่านั้น อาจจะทำให้มีอาการง่วงเหงาหาวนอน ซึมเศร้า ไม่มีสมาธิ และอาจอาเจียนเลยก็เป็นได้ ทางที่จึงควรค่อย ๆ ลดปริมาณลงจะดีกว่า เริ่มจากการลดและหาเครื่องดื่มหรืออาหารอื่น ๆ มาทดแทนเช่น ชา โกโก้ หรือช็อกโกแลต นอกจากจะช่วยลดคาเฟอีนจากกาแฟแล้ว ยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจสารพิษ สารเสพติดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 194 บาท ลดสูงสุด 68% บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

2. ใช้ยาแก้ปวดก็ได้

เมื่อเลิกดื่มกาแฟในทันทีอาจมีอาการปวดหัวตามมา จึงทำให้เลิกกาแฟไม่ได้เสียทีเพราะปวดหัวก็กลับไปกาแฟดื่มกาแฟเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าเกิดอาการปวดหัวขึ้นมาจนทนไม่ไหว ก็ให้ทานยาแก้ปวดหัวบรรเทาอาการได้ แต่ทั้งนี้ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวดเพราะอาจเกิด กรดไหลย้อน หรือเป็นโรคกระเพาะ

3. หาอย่างอื่นดื่มทดแทน

อาจลองดื่มเป็นกาแฟประเภทที่ไม่มีคาเฟอีน เพราะกาแฟประเภทนี้จะมีกลิ่นใกล้เคียงกับกาแฟปกติ แต่จะไม่มีคาเฟอีนเท่านั้นเอง อาจทดลองดื่มคู่กันและมากเกินเพื่อชดเชยกาแฟปกติ แบบนั้นก็จะช่วยให้เลิกกาแฟได้เร็วขึ้น หรือจะหันมาดื่มชาสมุนไพร หรือน้ำอุ่น ๆ แทน ก็ได้เช่นกัน

4. ดื่มน้ำเยอะๆเข้าไว้

น้ำทำให้ชื่นใจ ดับกระหาย เป็นส่วนประกอบในเลือด และช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยทำให้คนที่มีภาวะติดคาเฟอีนนั้นไม่มีอาการขาดสมาธิ หรือไร้ผลข้างเคียงจากการเลิกดื่มกาแฟได้อีกด้วย

5. รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

การทานอาหารที่ดีในช่วงเลิกดื่มกาแฟ จะทำให้มีแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยบำรุงร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลียได้ นอกจากนี้ควรเลี่ยงอาหารหนัก ๆ ที่มีไขมันสูง เพราะจะทำให้รู้สึกง่วง จนต้องหันกลับมาพึ่งกาแฟ ควรเลือกเป็น ผัก ผลไม้ หรือธัญพืชจะดีที่สุด

6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เพราะในช่วงเลิกกาแฟนั้น มักจะเกิดอาการอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดี เพราะช่วยลดอาการอ่อนเพลีย และช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีแรงมากขึ้น และยังไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

เมื่อคิดจะเลิกดื่มกาแฟ ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณก็จะสามารถบอกลากาแฟได้อย่างง่ายดายแน่นอน แถมยังทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นเรามาบอกลากาแฟด้วย 6 เคล็ดลับนี้กันเถอะ


23 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
How Caffeine Addiction Can Affect Your Health. Verywell Mind. (https://www.verywellmind.com/caffeine-addiction-4157287)
Caffeine Withdrawal Headache: 7 Tips for Relief & More. Healthline. (https://www.healthline.com/health/headache/caffeine-withdrawal-headache)
10 Ways to Start Your Day Without Caffeine - Sleep Center. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/sleep/101/move-more-drink-less.aspx)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)