การนวดกดจุดของคนไทยนั้น มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากการนวดกดจุดสามารถรักษาโรคและอาการต่างๆ ของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายได้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปนวดตามสถานพยาบาลที่ให้บริการนวดแผนไทย อาจลองทำความเข้าใจการนวดกดจุดด้วยตัวตามบทความนี้
สามารถนวดกดจุดตำแหน่งใดได้บ้าง?
จากตำราของการนวดกดจุด ได้ระบุไว้ว่า ร่างกายของเรานั้นสามารถกดจุดได้ทุกที่ ทุกส่วนของร่างกาย เมื่อยตรงไหนก็กดลงไปที่จุดนั้น ถ้าหากว่าเป็นในส่วนที่กดไม่ถึง อย่างเช่น บริเวณส่วนหลัง ก็สามารถหาเครื่องทุ่นแรงอย่างกะลา หรือไม้กดจุดมาช่วยได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความสำคัญของการกดจุดด้วยตัวเองนั้น อยู่ที่การรู้จักต้นทางของเส้นเลือดใหญ่ เพราะอาการปวดเมื่อยส่วนมากแล้ว มักเกิดจากการกดทับที่ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้เหมือนที่เคยเป็น
เช่น เมื่อเกิดการปวดข้อเท้า หลายคนก็มักจะทำการบีบนวดที่ข้อเท้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นไปจากเดิมเลย เพราะส่วนที่จะเกิดการตึงร่วมด้วย ก็คือบริเวณต้นขาที่อาจจะเกิดจากการที่หลอดเลือดไปเลี้ยงไม่พอ การนวดกดจุดจึงต้องเริ่มที่ต้นขา เพื่อให้เลือดมีการไหลเวียนลงไปเลี้ยงที่ข้อเท้า ซึ่งจะช่วยให้หายปวดได้ในที่สุด
วิธีกดจุดง่ายๆ ทำได้อย่างไร?
การนวดกดจุดสามารถทำได้หลายตำแหน่งหลายวิธี ดังต่อไปนี้
1. วิธีนวดกดจุดคอ บ่า ไหล่ (อาการออฟฟิศซินโดรม)
เริ่มจากการนั่งขัดสมาธิ แล้วใช้ปลายนิ้วมือ 4 นิ้วข้างซ้าย (ยกเว้นนิ้วโป้ง) กดคลึงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่หน้าอกแล้วขึ้นมาจนถึงหัวไหล่ขวาด้านหน้า
หลังจากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วกดไปที่บ่าและคอ พร้อมกับหันศีรษะไปในทิศทางตรงกันข้าม จากนั้นก็ให้สลับมาทำอีกข้างหนึ่ง
2. วิธีนวดกดจุดขา
การนวดกดจุดที่ขา อาจจะต้องอาศัยการสังเกตสักเล็กน้อย คือต้องมองหาแนวร่องของกล้ามเนื้อ หรือแนวเส้นเลือด เพราะเราจะต้องทำการกดจุดในบริเวณนั้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เมื่อหาเจอแล้วก็เริ่มโดยการนั่งขัดสมาธิ ให้เอาขาขวาไว้ด้านบนแล้วหงายฝ่าเท้าขึ้น จากนั้นให้เอานิ้วหัวแม่มือของมือทั้ง 2 ข้างมาวางทับกันแล้วกดไปที่ฝ่าเท้า โดยเริ่มตั้งแต่ส้นเท้า ไปจนถึงเนินฝ่าเท้า ทำกลับไปกลับมาประมาณ 2-3 ครั้ง
เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้งเพียง 3 นิ้ว นวดและรูดนิ้วเท้าโดยเริ่มตั้งแต่โคนไปจนถึงปลายนิ้วทีละนิ้ว จากนั้นให้สลับขาเป็นข้างซ้าย
3. การนวดกดจุดเพื่อคลายความเครียด
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานเอกสาร หรือทำงานในสถานที่ที่มีความเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีช่วงเวลาในการพักผ่อน 5-10 นาที ก็ควรกดจุดดังต่อไปนี้ เพื่อคลายความตึงเครียดและความเหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้น
วิธีการกดจุดเพื่อคลายความเครียด มีให้เลือกมากถึง 3 จุดดังต่อไปนี้
- ใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลาง กดไปที่ตรงกลางระหว่างคิ้ว 3-5 ครั้ง ครั้งละ 1 นาที
- ใช้มือประสานกันที่ท้ายทอย แล้วใช้หัวแม่มือของทั้ง 2 ข้าง กดไปที่บริเวณขอบท้ายทอยของทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน แล้วเลื่อนมือมากดตรงกึ่งกลางของขอบท้ายทอยอีก 3-5 ครั้ง ครั้งละ 1 นาที
- ใช้มือประสานกันที่ท้ายทอยอีกครั้ง แล้วใช้หัวแม่มือของทั้ง 2 ข้าง กดไปที่ต้นคอตั้งแต่ช่วงตีนผมไปจนถึงบ่า ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
4. การกดจุดเพื่อลดความดันเลือด
เป็นการกดจุดที่บริเวณข้อมือ เริ่มจากการหงายฝ่ามือขึ้น จะเห็นเส้นเลือดใหญ่ 2 เลือดตัดกันอยู่บริเวณเหนือข้อมือประมาณ 1.5-2 นิ้ว ให้เอานิ้วมืออีกข้างกดลงไปบริเวณนั้นค้างไว้จนรู้สึกชาไปทั้งมือ แล้วเปลี่ยนมาคลึงเบา ๆ ก่อนที่จะสลับไปทำแบบเดียวกันอีกข้างหนึ่ง
5. การกดจุดที่หัวแม่มือ
เพื่อให้เลือดไหลเวียนตามนิ้วมือได้ดียิ่งขึ้น ช่วยรักษาอาการนิ้วล็อคที่เกิดจากการทำงานหรือการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน เพียงแค่ใช้นิ้วมืออีกข้าง กดไปที่หัวแม่มือของอีกข้างเป็นเวลา 30-60 วินาทีแล้วเปลี่ยนข้าง
6. การกดจุดฝ่าเท้าเพื่อให้นอนหลับสบาย
เริ่มจากการนั่งบนเก้าอี้ แล้วเอาขาข้างขวาพาดขึ้นมาบนขาอีกข้าง พร้อมกับหงายฝ่าเท้าขึ้น แล้วให้ใช้นิ้วมือทั้ง 2 ข้างทับกันออกแรงกดลงไปตรงกลางฝ่าเท้า กดจนกว่าจะรู้สึกชาแล้วจึงปล่อย จากนั้นให้สลับกันทำกันอีกข้าง
วิธีนวดกดจุดด้วยตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้เลย และเมื่อกดจุดเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมไปผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถ หรือเดินไปทำอย่างอื่นบ้าง เพราะถ้าไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนเลย ต่อให้กดจุดทั่วทั้งตัว ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้