การมีอาการขี้หลงขี้ลืมอาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้เป็นครั้งคราว แต่หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการดังกล่าวทุกวัน หรือบ่อยผิดปกติ มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นโรคอัลไซเมอร์เสมอไปค่ะ เพราะความจริงแล้ว มันยังมีอีกหลายเหตุผลที่เป็นไปได้ที่ทำให้คุณมีปัญหากับความจำ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปดูหลากสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นคนขี้ลืม แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
7 สาเหตุของอาการขี้ลืม
1. ทานยาบางชนิด
“ หากคุณกำลังกังวลกับความจำของตัวเอง สิ่งแรกที่ควรทำคือ ให้คุณลองทบทวนดูว่าตอนนี้กำลังทานยาชนิดใด ” กล่าวโดย Lauren Drag นักประสาทวิทยา และอาจารย์ที่ Stanford University School of Medicine ทั้งนี้มียาหลายชนิดที่มีผลต่อความจำ ซึ่งในหนึ่งในนั้นก็คือยาในกลุ่มแอนตี้โคลิเนอร์จิก (Anticholinergic) ซึ่งมันจะไปขัดขวางการทำงานของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำที่มีชื่อว่า อะซิทิลคอลีน (Acetylcholine) นอกจากนี้ยาในกลุ่มที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต หรือยาแก้ปวดบางชนิดก็สามารถทำให้คุณมีความจำแย่ลงเช่นกัน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2. เป็นโรคซึมเศร้า
ถ้าคุณกำลังมีอาการซึมเศร้า มันก็เป็นเรื่องยากที่คุณจะจดจ่อกับสิ่งตรงหน้า ส่งผลให้คุณไม่สามารถนึกถึงมันได้ในภายหลัง ทั้งนี้ Drag ให้ความเห็นว่า โรคซึมเศร้าอาจทำให้รูปร่างของสมองบางส่วนเปลี่ยนไป “ มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า โรคซึมเศร้าสามารถมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนขนาด และการทำงานของสมองส่วนที่สำคัญต่อทักษะความจำ ความเร็วในการคิด สมาธิ และความสามารถในการแก้ ปัญหา ”
3. ความเครียด
ความเครียดจะทำให้คุณไม่มีสมาธิเมื่อถึงเวลาที่ต้องจดจำข้อมูล หากเป็นความเครียดในระยะสั้น มันก็จะทำให้เป็นเรื่องยากที่คุณจะตามทันบทสนทนาที่คุยกับคนอื่น และหากคุณสะสมความเครียดเป็นเวลานาน มันก็จะยิ่งทำให้อาการแย่ลงไปอีก เพราะความเครียดจะมีผลกระทบที่สำคัญต่อสมอง ไม่ว่าจะเป็นการจำเรื่องง่ายๆ อย่างการจ่ายบิลค่าใช้จ่ายในบ้าน หรือการจัดตารางงาน คุณจะจัดการกับมันได้แย่ลง นอกจากนี้ Drag ยังกล่าวว่า การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน การนอนดึก การไม่ออกกำลังกาย และไม่ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้คุณมีอาการหลงลืม
4. คุณกำลังเหนื่อยมาก
การที่คุณนอน 8 ชั่วโมง หรือมากกว่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณได้พักผ่อนแบบมีคุณภาพ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า คนที่ใช้เวลาในช่วงนอนหลับลึกน้อยจะมีปัญหากับความจำ แต่ข่าวดีก็คือ การได้นอนงีบเพียงสักครู่ แม้ว่าจะนอนประมาณแค่ 6 นาทีก็สามารถช่วยเพิ่มพลังให้สมองได้แล้ว แต่หากคุณรู้สึกเหนื่อยมากทั้งๆ ที่ได้งีบหลับแล้ว คุณก็ควรไปตรวจร่างกายค่ะ เพราะหากคุณเป็นโรคเกี่ยวกับการนอนอย่างโรคหยุดหายใจขณะหลับ มันก็จะทำให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และทำให้ปริมาณของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงสมองเปลี่ยนไป ซึ่งหากปล่อยไว้นานวันเข้า มันก็ สามารถส่งผลต่อความจำและความคิด
5. ดื่มแอลกอฮอล์มากไป
อย่างที่เราทราบดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ความคิดของคุณยุ่งเหยิงขณะที่คุณกำลังดื่ม แต่การดื่มเหล้าอย่างหนักสามารถทำให้ผู้ดื่มมีอาการหลงลืมหลังสร่างเมาแล้วเช่นกัน นอกจากนี้บางคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มาทั้งชีวิตอาจสูญเสียความฉลาดหลักแหลมไปเลย แต่คนส่วนมากสามารถคาดหวังได้ว่า อาการขี้ลืมจะกลับมาดีขึ้น โดยอาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์จนถึงขั้นนานเป็นเดือน
6. มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังอย่างโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ
โรคที่มีผลต่อเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงสมองอย่างโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคคอเลสเตอรอลสูงสามารถส่งผลต่อสมอง ในขณะที่โรคไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับตับ หรือไตก็สามารถมีผลต่อความจำเช่นกัน นอกจากนี้อาการขี้ลืมก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ ในกรณีนี้คุณอาจต้องทานอาหารเสริมค่ะ
7. อายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น สมองก็อาจแสดงสัญญาณให้คุณรู้ว่ามันกำลังเสื่อมสภาพ เช่นเดียวกับริ้วรอยที่เริ่มปรากฏบนผิว หรือข้อต่อที่เริ่มส่งเสียง โรคอัลไซเมอร์มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นหลังอายุ 65 ปี แต่อาการขี้ลืมระดับเบาๆ จะเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป ดังนั้นคุณไม่ต้องตกใจถ้าพบว่าตัวเองต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้สิ่งใหม่มากขึ้น หรือต้องใช้เวลาคิดคำในการพูดแต่ละครั้ง ทั้งนี้การออกกำลังกาย การทานอาหารที่ดีต่อสมอง และหมั่นเข้าสังคมก็อาจช่วยให้คุณมีสมองที่เฉียบแหลมนานขึ้น
หากคุณมีอาการขี้หลงขี้ลืมจนถึงขั้นที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน คุณก็อย่าลังเลที่จะไปโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์หาสาเหตุที่แท้จริง และรักษาให้ถูกวิธีค่ะ