การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน คือการอักเสบของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่อยู่เหนือช่องคลอดขึ้นไป ประกอบด้วย การอักเสบของปากมดลูก มดลูกและปีกมดลูก (ปีกมดลูก ประกอบด้วย รังไข่และท่อนำไข่ ปีกมดลูกมี 2 ข้าง ซ้ายและขวา)
สาเหตุของการอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดทางช่องคลอดและเชื้อเดินทางขึ้นไป ทางปากมดลูก เข้าสู่มดลูก ขึ้นไปสู่ปีกมดลูก เชื้อส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดปีกมดลูกอักเสบ เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อหนองในแท้ (Gonorrhea) และเชื้อหนองในเทียม (Chlamydria) ดังนั้น ปีกมดลูกอักเสบจึงพบได้บ่อยในผู้หญิงที่ยังมีเพศสัมพันธ์อยู่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการปีกมดลูกอักเสบ เป็นอย่างไร?
อาการของปีกมดลูกอักเสบอาจแตกต่างกันไปตามชนิดและความรุนแรงของเชื้อที่ก่อโรค โดยทั่วไปจะมีอาการปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย ที่เป็นบริเวณที่มดลูกและปีกมดลูกอยู่ ตกขาวผิดปกติ อาจจะมีตกขาวสีเหลืองข้น คล้ายหนอง กลิ่นเหม็น เจ็บแสบช่องคลอด ในบางรายอาจมีตกขาวปนเลือด มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดร่วมด้วย กรณีที่เป็นรุนแรง จะมีไข้ หรืออาจมีคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
การวินิจฉัย ต้องพบแพทย์ ตรวจภายใน จะพบลักษณะตกขาวที่ผิดปกติ ร่วมกับการกดเจ็บของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก ปีกมดลูก นอกจากนี้ แพทย์อาจมีการนำตกขาวที่ผิดปกติ ไปตรวจเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการ เพื่อหาเชื้อก่อโรคต่อไป
ปีกมดลูกอักเสบ อันตรายหรือไม่?
กรณีที่มีการอักเสบรุนแรง และไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้การอักเสบติดเชื้อลุกลาม เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
หรือในกรณีที่การอักเสบไม่ได้รุนแรง แต่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ครบถ้วน อาจทำให้มีเชื้อหลงเหลือ มีการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดพังผืดในช่องท้องในอุ้งเชิงกราน ซึ่งพังผืดนี้เป็นสาเหตุของอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง และ ภาวะมีบุตรยากในผู้หญิงบางคนได้
ดังนั้น จึงแนะนำว่า หากสงสัยภาวะนี้ควรไปพบแพทย์ ตรวจภายใน เพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาให้ถูกต้อง และควรรับการรักษาตามแพทย์สั่งให้ครบ โดยทั่วไปจะรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์ ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะเห็นว่าอาการดีขึ้นแล้ว เพราะถ้ากำจัดเชื้อออกไม่หมด อาจมีการอักเสบเรื้อรัง และ มีพังผืดตามมาได้ อย่างที่กล่าวข้างต้น
ปีกมดลูกมดลูกอักเสบ ยกของหนักได้ไหม มีลูกได้ไหม?
ในช่วงที่มีอาการ รวมถึงกำลังรักษาปีกมดลูกอักเสบ แพทย์จะแนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ก่อน นอกจากนี้ถ้าเป็นปีกมดลูกอักเสบจากเชื้อที่เป็นเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม จำเป็นจะต้องรักษาคู่นอนคู่สมรสด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โดยทั่วไป การเป็นปีกมดลูกอักเสบ อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ไม่ได้ส่งผลต่อการมีบุตร แต่ถ้าเป็นแล้วรักษาไม่ถูกต้อง รับประทานยาไม่ครบถ้วน อาจจะส่งผลให้เกิดพังผืด ซึ่งพังผืดนี้อาจไปขัดขวางการทำงานของท่อนำไข่ ทำให้ท่อนำไข่อุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้มีบุตรยากหรือท้องนอกมดลูกได้ โดยเฉพาะในคนที่มีปีกมดลูกอักเสบซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง
ส่วนการยกของหนักนั้นไม่ได้มีผลต่อปีกมดลูกอักเสบโดยตรง ไม่ได้ทำให้การอักเสบเป็นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงที่มีอาการมาก ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
การรักษาปีกมดลูกอักเสบ ทำอย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ กี่วันถึงจะหาย?
การรักษาปีกมดลูกอักเสบ รักษาด้วยยาฆ่าเชื้อเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งยาฉีด และยารับประทาน จะใช้ยาอะไรนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อและความรุนแรง ในกรณีที่อาการรุนแรง แพทย์อาจใช้ยาฉีด รวมถึงแนะนำให้นอนโรงพยาบาล เพื่อฉีดยาและดูอาการ
การรักษาอื่นๆ จะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ลดปวด การให้น้ำเกลือ ในกรณีที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมาก รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ โดยทั่วไป ถ้าได้ยาถูกต้อง ครอบคลุมเชื้อที่ก่อโรค ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นใน 3-4 วัน และหายไป ในประมาณ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีอาการแล้ว แต่ก็ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อต่อให้หมดตามที่แพทย์สั่ง เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื้อรังอื่นๆ ตามมา
ค่าใช้จ่าย ถ้าอาการไม่มาก ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายอาจจะอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท อย่างไรก็ตาม ขึ้นกับบริบทของแต่ละโรงพยาบาลด้วย
การป้องกันปีกมดลูกอักเสบ ทำอย่างไร?
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ปีกมดลูกอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ ที่มักเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันปีกมดลูกอักเสบ โดยไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์