การะเกด เป็นพืชชนิดหนึ่งที่พบได้มากในประเทศไทย ดอกมีกลิ่นหอม จึงนิยมนำไปใช้ทำเครื่องหอมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้นการะเกดมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าลำเจียกหนู จึงทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าเป็นต้นเดียวกับต้นลำเจียก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pandanus tectorius Parkinson ex Du Roi
ชื่อวงศ์ PANDANACEAE
ชื่อท้องถิ่น การะเกด การะเกดด่าง ลำเจียกหนู (กรุงเทพมหานคร) เตยด่าง เตยหอม (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของการะเกด
การะเกดเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ต้น สูง 3-7 เมตร ลำต้นมักแตกกิ่งสาขา มีรากอากาศค่อนข้างใหญ่และยาว ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับกันเป็นสามเกลียวที่ปลายกิ่ง ใบรูปรางน้ำ ค่อยๆ เรียวแหลมไปหาปลาย ขอบใบมีหนามแข็ง แผ่นใบด้านล่างมีสีนวล ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้นกัน ออกตามปลายกิ่ง มีจำนวนมากติดบนแกนของช่อดอก ดอกย่อยแต่ละดอกไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก ช่อดอกตัวผู้ตั้งตรง ยาว 25-60 เซนติเมตร มีกาบสีนวลหุ้ม มีกลิ่นหอม เกสรตัวผู้ติดรวมอยู่บนก้านยาว ช่อดอกตัวเมียค่อนข้างกลม มีเกสรตัวเมียเชื่อมติดกันเป็นกลุ่ม 5-12 กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 อัน ผลเบียดกันแน่นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-20 เซนติเมตร เมื่อสุกจะหอม โคนสีเหลือง ตรงกลางสีแสด ตรงปลายยอดสีน้ำตาลอมเหลือง
หมายเหตุ : ต้นการะเกดที่กล่าวถึงในบทความนี้ เป็นพรรณไม้คนละชนิดกันกับต้นลำเจียก ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pandanus odorifer (Forssk.) Kuntze (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Pandanus odoratissimus L.f.) แต่เนื่องจากเป็นพืชตระกูลเดียวกัน จึงนิยมนำมาใช้ประโยชน์ใกล้เคียงกัน
ถิ่นกำเนิดของการะเกด
ทั้งการะเกดและลำเจียกมีถิ่นกำเนิดตามชายหาดทั่วคาบสมุทรในแถบเส้นศูนย์สูตรรอบโลก จึงพบได้ในหลายประเทศ ตั้งแต่หมู่เกาะของฟิลิปปินส์ เวียดนาม หมู่เกาะฮาวาย อินเดีย และออสเตรเลีย ส่วนในประเทศไทยพบได้มากทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดตรังและสตูล
สรรพคุณทางยาของการะเกด
- ดอกการะเกดมีกลิ่นหอม รสสุขุม ใช้ปรุงเป็นยาหอม ใช้เป็นยาแก้โรคในอก เจ็บอก เจ็บคอ แก้เสมหะ บำรุงหัวใจ และบำรุงธาตุ
- ยอดอ่อนใช้ต้มกับน้ำ ให้สตรีดื่มตอนหลังคลอดบุตรใหม่ๆ
- ในประเทศฟิลิปปินส์ แพทย์พื้นบ้านจะนำส่วนเปลือกของต้นลำเจียกนำไปฝนกับขิงต้มกับน้ำร้อน รับประทานเป็นยานอนหลับ ส่วนรากของต้นลำเจียก นำไปต้มน้ำดื่มเพื่อขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร
ประโยชน์อื่นๆ ของการะเกด
- กลิ่นหอมของดอกการะเกดทำให้สตรีโบราณนิยมนำมาใส่หีบ เพื่ออบกลิ่นเสื้อผ้าให้หอม
- นำดอกไปเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวหรือมันหมู แล้วปรุงเป็นน้ำมันใส่ผม ซึ่งในสมัยก่อนนิยมใช้กันมาก
- ผลแก่สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ มีรสชาติคล้ายสับปะรด
- ใบการะเกดและใบลำเจียกมีลักษณะคล้ายกัน จึงสามารถนำมาใช้ในงานจักสานทำเป็นเครื่องมือใช้สอยต่าง ๆ ได้ดี เช่น กระสอบ เสื่อ หมวก กระเป๋า
- การะเกดเป็นไม้ที่มีรูปทรงเฉพาะตัวที่สวยงามแปลกตา ดอกมีกลิ่นหอม มีความทนทาน จึงสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับได้