ก้อนที่คอมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กมากจนแทบไม่รู้ว่ามีก้อนอยู่จนถึงขนาดใหญ่จนคนรอบข้างสังเกตเห็น ก้อนบางก้อนไม่เป็นอันตราย และอาจหายไปได้เอง แต่บางก้อนอาจเป็นอันตรายเสี่ยงที่จะเป็นเนื้อร้ายได้ ควรรีบไปพบแพทย์ บางท่านอาจศึกษาหาความรู้เรื่องก้อนที่คอมาจากหลายบทความในอินเทอร์เน็ตมาบ้างแล้ว ในบทความนี้จะกล่าวถึงก้อนที่คอในทางการแพทย์ ซึ่งอาจมีเนื้อหาที่ละเอียดและเข้าใจได้ยากกว่าบทความอื่นๆ แต่จะสามารถหาคำตอบได้ว่า ก้อนที่พบในตำแหน่งต่างๆ ของคอบ่งบอกถึงอะไร เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เมื่อคลำพบก้อนที่คอแล้วต้องทำอย่างไร อันตรายหรือไม่ และควรจะถามคำถามใดบ้างเมื่อไปพบแพทย์
ก้อนเนื้อที่คอ ตรงกลาง ข้างซ้าย ข้างขวา ด้านหลัง คืออะไร?
กายวิภาคบริเวณคอ (Neck anatomy) แบ่งคอออกเป็นสองฝั่งจากตำแหน่งกึ่งกลาง คือ ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ทั้งสองฝั่งสมมาตรกัน แต่ละฝั่งจะแบ่งโดยกล้ามเนื้อที่ยึดส่วนบนของกระดูกอก (Sternum) และกระดูกไหปลาร้า (Clavicle) ไปยังกระโหลกศีรษะด้านหลังใบหู (Mastoid process of the skull) กล้ามเนื้อนี้มีชื่อเรียกว่า “Sternocleidomastoid muscle” การแบ่งโดยกล้ามเนื้อนี้ทำให้แบ่งคอออกเป็นพื้นที่ใหญ่ๆ ด้วยกัน 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่สามเหลี่ยมด้านหน้า (Anterior triangle) และพื้นที่สามเหลี่ยมด้านหลัง (Posterior triangle) การแบ่งพื้นที่เช่นนี้จะทำให้แพทย์สามารถทำนายสาเหตุของก้อนที่คลำได้บริเวณต่างๆ ของลำคอ เนื่องจากบ่งบอกถึงอวัยวะ การไหลเวียนของระบบเลือดและระบบน้ำเหลืองภายใต้พื้นที่นั้นๆ
ตรวจ รักษา หู คอ จมูก วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 854 บาท ลดสูงสุด 54%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยกตัวอย่างเช่น การคลำพบก้อนบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมส่วนหน้าใต้ขากรรไกร อาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ หรือมีเนื้อร้ายบริเวณลิ้นส่วนหน้า ด้านล่างของช่องปาก เหงือกและกระพุ้งแก้ม การคลำพบก้อนบริเวณพื้นที่สามเหลี่ยมส่วนหลังเหนือกระดูกไหปลาร้า อาจมีเนื้อร้ายของระบบทางเดินอาหารและระบบสืบพันธุ์ เป็นต้น
ก้อนที่คอเกิดจากสาเหตุอะไร?
ก้อนที่คอเกิดได้จากหลายสาเหตุ สามารถแบ่งตามระยะเวลาในการพบก้อนที่คอได้ดังนี้
- ก้อนที่คอเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน (Acute neck masses) พบก้อนที่คอในทันทีหรือพบในระยะเวลาไม่กี่วัน ส่วนใหญ่จะมีอาการร่วม เช่น เจ็บบริเวณก้อน เจ็บคอ กลืนเจ็บ เป็นต้น สาเหตุที่เป็นไปได้ คือ อาจเกิดจากการได้รับการกระทบกระแทกทำให้มีการช้ำ มีเลือดออกใต้ผิวหนัง (Hematoma) ทำให้เกิดก้อนขึ้นมา หรืออาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อของต่อมน้ำเหลือง (Lymphadenitis) หรือต่อมน้ำลาย (Acute sialadenitis) ซึ่งการติดเชื้อเป็นไปได้ทั้งจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
- ก้อนที่คอเกิดขึ้นกึ่งเฉียบพลัน (Subacute neck masses) พบก้อนที่คอในระยะเวลาประมาณหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน สาเหตุที่เป็นไปได้ คือ การอักเสบเรื้อรังของต่อมน้ำลาย (Chronic sialadenitis) ซึ่งมักจะมีอาการเจ็บหลังจากทานอาหาร มะเร็งของระบบน้ำเหลือง (Lymphoma) มะเร็งของระบบทางเดินหายใจส่วนบน (Upper aerodigestive tract squamous cell carcinoma) มะเร็งที่กระจายมาจากอวัยวะหรือระบบอื่น (Metastatic cancer) เป็นต้น
- ก้อนที่คอที่เกิดขึ้นมานานแล้ว (Chronic neck masses) พบก้อนที่คอในระยะเวลานาน เป็นมาหลายปี หรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด สาเหตุที่เป็นไปได้คือ ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (Enlarged thyroid) ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ (Thyroid nodules) ก้อนไขมัน (Lipoma) ก้อนซีสต์ที่เกิดจากการพัฒนาผิดปกติของต่อมไทรอยด์ (Thyroglossal duct cyst) ซึ่งจะพบก้อนนี้ตั้งแต่กำเนิด ก้อนจะขยับขึ้นลงได้ตามการกลืน เป็นต้น
ถ้าคลำเจอก้อนที่คอต้องทำอย่างไร?
ก้อนบางก้อนไม่เป็นอันตรายมาก เมื่อกำจัดหรือรักษาที่สาเหตุแล้วก้อนอาจหายไปได้เอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นก้อนที่เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ แต่บางก้อนอาจอันตราย เช่น ก้อนที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณคอทำให้อาจส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจ นอกจากนี้ก้อนที่คอบางก้อนเสี่ยงที่จะเป็นเนื้อร้ายได้ หรือบางก้อนทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายผิดปกติ เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ ทำให้มีอาการใจสั่น อารมณ์แปรปรวน และคลื่นไส้อาเจียนได้ ดังนั้นเมื่อคลำเจอก้อนที่คอควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเกิดจากสาเหตุใด และให้การรักษาที่ตรงกับสาเหตุ
ถ้าเป็นก้อนกลิ้งได้ กดเจ็บ กดไม่เจ็บ แบบไหนอันตราย?
ก้อนที่มีลักษณะกลิ้งได้ เจ็บบริเวณก้อน และมีขนาดเล็ก จะมีโอกาสที่จะเป็นเนื้อร้ายและมีความอันตรายที่น้อยกว่าก้อนที่ฝังติดอยู่กับผิวหนังหรืออวัยวะใกล้เคียง ขยับไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกเจ็บบริเวณก้อน และมีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ก้อนที่สงสัยว่าจะเป็นเนื้อร้ายจะมีลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เป็นก้อนที่เกิดขึ้นมานานมากกว่า 2-3 สัปดาห์
- ก้อนมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือมีขนาดเล็กลง แต่ไม่หายไปเมื่อผ่านไปนานๆ
- ก้อนทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน เช่น กลืนลำบาก หรือกลืนติด
- พบก้อนร่วมกับมีอาการเสียงแหบ หายใจติดขัด หรือมีน้ำหนักลดผิดปกติ
อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยนั้นต้องอาศัยประวัติอื่นๆ ร่วมด้วย และไม่จำเป็นต้องมีอาการเหล่านี้เพียงอย่างเดียว รวมถึงต้องมีการตรวจร่างกาย รวมถึงการส่งตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิ (Pathological diagnosis) เพิ่มเติม ในกรณีที่สงสัยว่าจะเป็นเนื้อร้าย
ควรจะถามคำถามใดบ้างเมื่อไปพบแพทย์?
เมื่อเข้าพบแพทย์ มีคำถามที่คุณควรถามดังต่อไปนี้
- ก้อนที่เป็นอยู่เกิดจากสาเหตุอะไร?
- ก้อนนี้สงสัยว่าจะเป็นเนื้อร้ายหรือไม่?
- เป็นอันตรายหรือไม่?
- มีแนวทางการตรวจรักษาเพิ่มเติมอย่างไร?