ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก การคลอดลูกมีความปลอดภัยมากขึ้น มีหลายปัจจัยที่ใช้เลือกวิธีการคลอดลูก โดยทั่วไปคุณหมอแนะนำให้คลอดเองโดยวิธีธรรมชาติก่อน แต่หากไม่สามารถคลอดเองได้หรือมีเหตุจำเป็นต้องผ่าตัดคลอด ซึ่งทั้งหมดนี้จะอยู่ในดุลพินิจของคุณหมอผู้ดูแลครรภ์
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปัจจัยที่คุณหมอผู้ดูแลครรภ์จะเลือกให้คลอดเองทางช่องคลอดมีดังนี้
- ทารกในครรภ์อยู่ในท่าศีรษะอยู่ล่างหรือเป็นส่วนนำ แต่หากก้นเป็นส่วนนำแต่มีการกลับตัวเองได้ในภายหลังก็จะคลอดเองได้
- ขนาดของทารกในครรภ์ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป คือน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 2,500-4,000 กรัม
- ทารกในครรภ์มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่มีโรคประจำตัวและภาวะแทรกซ้อน
- ส่วนนำของทารกในครรภ์เข้ามาอยู่ในอุ้งเชิงกรานแล้ว เมื่อเริ่มมีการเจ็บครรภ์
- ทารกในครรภ์อยู่ในท่างอตัวปกติ คือ ก้มหัว คางจรดอก
ข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาติ
การคลอดด้วยวิธีการทางธรรมชาตินั้นส่งผลดีต่อทั้งตัวคุณแม่และทารก เนื่องจากคุณแม่ไม่ต้องรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด ทำให้ฟื้นตัวเร็วหลังคลอด เป็นการลดระยะเวลาในการรักษาตัวในโรงพยาบาล นอกจากนี้ การคลอดด้วยวิธีธรรมชาติจะเป็นการกระตุ้นให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น
สำหรับผลดีที่เกิดขึ้นกับทารกน้อย จากการศึกษาพบว่าทารกที่คลอดด้วยวิธีการธรรมชาติจะมีระบบทางเดินหายใจที่สมบูรณ์แข็งแรง ลดโอกาสที่จะต้องนอนในตู้อบพิเศษ โอกาสติดเชื้อน้อยกว่าเด็กที่คลอดแบบผ่าตัด และเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับทารกแรกเกิดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการคลอดด้วยวิธีธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกที่คุณหมอแนะนำเป็นอันดับแรก
ส่วนปัจจัยที่คุณหมอจะสั่งให้ผ่าตัดคลอดได้แก่
- มีความไม่สมดุลกันของส่วนนำของทารก คือศีรษะและอุ้งเชิงกรานของตัวคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เช่น ทารกในครรภ์ตัวใหญ่เกินไป
- ทารกในครรภ์ไม่แข็งแรง หรือมีปัญหาทางสุขภาพ
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เคยผ่าตัดคลอดลูกมาก่อน
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีความดันเลือดสูง จากภาวะแทรกซ้อนหรือโรคประจำตัวของคุณแม่เอง
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศ
- ทารกในครรภ์มีภาวะรกเกาะต่ำ หรือเกาะขวางทางคลอด
- การลอกตัวของรกก่อนคลอด
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มีภาวะครรภ์เป็นพิษ
- การตั้งครรภ์นานเกินกำหนด
แม้ว่าการผ่าตัดคลอดจะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงแต่คุณหมอก็จะเลือกเป็นวิธีสุดท้าย เนื่องจากการผ่าตัดเป็นสิ่งที่เกิดภาวะฉุกเฉินได้ตลอดเวลาซึ่งอาจไม่สามารถป้องกันหรือคาดการณ์ได้ล่วงหน้า
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและข้อควรคิดเมื่อผ่าตัดคลอด
การผ่าคลอดนั้นมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจผ่าคลอด สำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- มีโอกาสเสี่ยงต่อยาสลบหรือยาชาที่ฉีดที่ไขสันหลัง ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดยาเหล่านี้ ภาวะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นในคุณแม่ได้น้อยกว่าร้อยละ 0.5
- การผ่าตัดช่องท้อง มีโอกาสที่จะกระทบกระเทือนต่ออวัยวะอื่นๆ เช่น ทางเดินปัสสาวะ
- การผ่าตัดคลอดจะทำให้เสียเลือดมากกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ
- การผ่าตัดคลอดมีโอกาสติดเชื้อหลังคลอด โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคอ้วนหรือเบาหวานจะมีความเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคุณแม่ทั่วไป
- การผ่าคลอด มีโอกาสเสี่ยงมดลูกแตกจากรอยแผลเดิมที่เกิดจากการเคยผ่าคลอดทางหน้าท้อง ดังนั้นหากคุณแม่เคยผ่าคลอดมาแล้วควรพิจารณาในการเลือกผ่าคลอดอีกในครั้งถัดไป
- การผ่าตัดคลอด จะมีผลทำให้ปริมาณน้ำนมน้อยกว่าคนที่คลอดลูกแบบธรรมชาติ
- การพักฟื้นหลังคลอด หากผ่าตัดคลอดจะใช้เวลามากกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ
- การผ่าตัดคลอด ใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ