โรคหลายบุคลิก หรือ Multiple Personality Disorder ถูกจัดอยู่ในโรคทางจิตเวชประเภท Dissociative identity disorders ตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติของความผิดปกติทางจิต
ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลายบุคลิกจะมีสองอัตลักษณ์ หรือมีบุคลิกหรือมากกว่าหนึ่งบุคลิกในคนเดียวกัน ซึ่งบุคลิกเหล่านี้จะเข้าควบคุมพฤติกรรมของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมักจะประสบกับการสูญเสียความทรงจำ เมื่ออีกหนึ่งบุคลิกเข้ามาควบคุม
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับโรคหลายบุคลิก
โรคหลายบุคลิกเป็นโรคที่พบได้น้อยมาก ทำให้ข้อมูลการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้มีน้อยไปด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อโต้แย้งมาอย่างยาวนานในวงการสุขภาพจิตถึงคำถามที่ว่าโรคหลายบุคลิกมีจริงหรือไม่
และมีหลักฐานพบว่า บุคคลที่เป็นโรคหลายบุคลิกจะมีความรู้สึกไวต่อการสะกดจิต และความผิดปกติเกี่ยวกับการคล้อยตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนแย้งว่า อัตลักษณ์ หรือบุคลิกอีกแบบที่คนเป็นโรคหลายบุคลิกประสบนั้น อาจเป็นผลลัพท์ของการคล้อยตามนี้
ถึงอย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ก็ได้แย้งว่า มีบางการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ที่ปฏิเสธข้อโต้แย้งดังกล่าว เช่น การศึกษาที่พิสูจน์ให้เห็นว่า บุคลิกที่แตกต่างของผู้ป่วยโรคหลายบุคลิกนั้น มีรูปแบบการแสดงออกทางสรีรวิทยาที่ต่างกัน รวมถึงการกระตุ้นสมองหรือการตอบสนองของหลอดเลือดหัวใจที่ต่างกัน
การศึกษาเหล่านี้ถูกใช้เป็นหลักฐานว่า การมีสองบุคลิกภาพในคนเดียวกันเป็นเรื่องจริง ทว่าการศึกษาเกี่ยวกับโรคหลายบุคลิกนั้นยังมีข้อจำกัด และการวินิจฉัยเองก็ยังมีข้อโต้แย้งอยู่มาก
เกณฑ์การวินิจฉัยสำหรับโรคหลายบุคลิก
เกณฑ์การวินิจฉัยสำหรับโรคหลายบุคลิกตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติของความผิดปกติทางจิต ในการพิมพ์ครั้งที่ 5 ระบุถึงอาการของผู้ป่วยโรคหลายบุคลิกภาพดังต่อไปนี้
- มีการแสดงอัตลักษณ์ หรือบุคลิกที่แตกต่างกันตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไปอย่างชัดเจน โดยพิจารณาความแตกต่างจากรูปแบบของความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ซึ่งการเกิดขึ้นของบุคลิกเหล่านี้สามารถประเมินได้ด้วยตนเอง หรือเป็นการสังเกตจากนักบำบัดเพื่อการวินิจฉัย
- เกิดการสูญเสียความทรงจำ (Amnesia) ที่จำกัดว่า บุคคลหนึ่งควรจะจดจำอะไรได้บ้าง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ หรือภยันตราย และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
- มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน
- อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำตามหลักวัฒนธรรม หรือศาสนา
- อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ผลลัพท์ของการใช้สารใดๆ เช่น แอลกอฮอล์ ยารักษาโรค หรือสารเสพติด
โรคหลายบุคลิกกับโรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง ต่างกันอย่างไร?
ผู้ที่เป็นโรคหลายบุคลิก มักเคยมีประสบการณ์การถูกทารุณกรรมทางร่างกาย และการทารุณกรรมทางเพศอย่างรุนแรงในวัยเด็ก และมักมีอาการคล้ายกับโรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง (Borderline Personality Disorder: BPD) รวมถึงมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง (Self-harming behaviors)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีพฤติกรรมตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างรุนแรง และมีปัญหาในการรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนอาจเกี่ยวข้องกับการถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก (Childhood abuse) และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของทั้งโรคหลายบุคลิกและโรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง
มีทฤษฎีหนึ่งเกี่ยวกับการพัฒนาของโรคหลายบุคลิกได้เสนอว่า บุคคลที่เป็นโรคหลายบุคลิกมักจะเคยประสบกับการได้รับบาดแผลทางจิตใจอย่างรุนแรง
วิธีเดียวที่จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้คือ การแยกบุคลิกภาพบางส่วนออกจากบุคลิกภาพซึ่งเป็นปกติธรรมดาของผู้ป่วยชั่วคราว (Dissociation) ซึ่งเป็นบุคลิกที่เข้มแข็ง เพื่อให้สามารถเผชิญปัญหาได้อย่างเหมาะสม เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเรื้อรังและนำไปสู่การสร้างหลายๆ อัตลักษณ์ขึ้นมา
การแยกบุคลิกภาพบางส่วนออกจากบุคลิกภาพปกติ เป็นอาการของโรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วการแยกบุคลิกที่พบในโรคบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะเกิดขึ้นไม่บ่อย หรือไม่รุนแรงเท่าในผู้ป่วยโรคหลายบุคลิก หรือบางคนที่มีอาการของโรคหลายบุคลิกอาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นทั้งสองโรคก็ได้
ผู้ป่วยโรคหลายบุคลิกอาจประสบกับอาการที่แสดงถึงการมีบาดแผลทางจิตใจอื่นๆ ด้วย เช่น ฝันร้าย เห็นภาพในอดีต หรืออาการอื่นๆ ที่เป็นลักษณะของโรคความผิดปกติหลังเผชิญความเครียดหรือเหตุการณ์สะเทือนใจ (Post-Traumatic Stress Disorder: PTSD)
(ขอโพสต์ถามใหม่อีกรอบนะคะ พอดีโพสต์เก่าไม่มีคนตอบ) ไม่ทราบว่าจะสามารถรู้ได้อย่างไรคะว่าเราเป็นโรคหลายบุคลิกรึเปล่า เราเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็น BPD ค่ะ แต่เราเกิดความสงสัยว่าตัวเองจะกลายเป็น DID รึเปล่า? เราพยายามสังเกตด้วยตัวเองนะคะ แต่ก็ก...