คันหัวนม เป็นหนึ่งในปัญหาที่น่าหนักใจของผู้หญิง เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งซ่อนเร้น หากไม่เป็นมากสุดๆ จริงๆ ก็ไม่กล้าไปพบแพทย์
อย่างไรก็ตาม ผิวหนังบริเวณหัวนม และลานนม (บริเวณรอบๆ หัวนม) เป็นผิวที่บอบบาง อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่อับชื้น จึงอาจก่อให้เกิดอาการคัน และระคายเคืองได้ง่าย สาเหตุของอาการคันบริเวณหัวนมและลานนมก็มีทั้งแบบอันตราย และไม่อันตราย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มาเรียนรู้กันว่า อาการคันหัวนมแบบไหนที่อันตราย ต้องไปพบแพทย์ และวิธีรักษา
กลุ่มสาเหตุของอาการคันหัวนมที่ไม่อันตราย
อาการคันหัวนมที่ไม่เป็นอันตราย อาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้
ผิวหนังหัวนมอักเสบ (Nipple eczema) ส่วนใหญ่มักเป็นทั้งสองข้าง เกิดเป็นผื่นลักษณะแดง คัน อาจมีขุย หรือไม่มีก็ได้ สาเหตุที่ทำให้เป็นผื่นชนิดนี้ เช่น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน บางคนเป็นช่วงใกล้มีประจำเดือน ตอนตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ผิวบริเวณหัวนมและลานนมแห้ง จึงก่อให้เกิดอาการคันได้
- ผื่นแพ้สัมผัสจากสารบางอย่าง เช่น ครีมทาหัวนม ซิลิโคนแปะหัวนม ซิลิโคนบรา รวมถึงการสักให้หัวนมชมพู ก็อาจก่อให้เกิดการแพ้สารที่ใช้สักได้ แม้ว่าผ่านการสักมาแล้วหลายเดือน
- การเสียดสี เช่น ในกลุ่มนักกีฬา ผู้ที่วิ่งมาราธอน หรือการใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป
- ความระคายเคือง เช่น ในผู้ที่ให้นมบุตร นอกจากมีปัจจัยจากฮอร์โมนได้แล้ว ยังอาจเกิดจากน้ำลายของลูกน้อย
เนื่องจากช่วงแรกๆ ที่ให้นมบุตร ลูกต้องการดูดนมบ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง บางคนดูดช้า ดูดนาน หรือชอบอมหัวนมแม่ไว้ ก็จะทำให้ผิวหนังบริเวณหัวนมและลานนมแห้ง คัน ตามมาได้
เชื้อรา
เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นบริเวณที่สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด มีต่อมไขมันพิเศษ และต่อมเหงื่อเหมือนผิวหนังทั่วๆ ไป เมื่อมีเหงื่อออกจะเกิดการอับชื้นง่าย ทำให้เกิดเชื้อราที่ผิวหนัง โดยเฉพาะเชื้อรากลุ่มแคนดิดา (Candidiasis)
ผื่นมีลักษณะแดง คัน และกระจายรอบๆ หัวนม ลานนม บางรายอาจเป็นบริเวณใต้ฐานนม หรือรักแร้ได้ อาการผื่นจากเชื้อรานี้มักพบได้ง่ายในผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวาน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กลุ่มสาเหตุของอาการคันหัวนมที่เป็นอันตราย
อาการคันหัวนมอาจเกิดจากโรคที่เป็นอันตรายก็ได้ ดังนี้
- มะเร็งเต้านม มะเร็งเต้านมของบางคนอาจจะมาด้วยอาการผื่นบริเวณหัวนม ลานนม หรือผิวที่เต้านม มักเป็นข้างเดียว ไม่คัน
ลักษณะจะเป็นผื่นแดงหรือตุ่มแดง แข็ง อาการอื่นๆ ที่พบร่วมคือ หัวนมผิดรูป มีน้ำหรือของเหลวสีปนเลือดไหลออกมาจากหัวนม คลำได้ก้อน - โรคพาเจ็ต (Paget’s disease) เป็นโรคกลุ่มหนึ่งของมะเร็ง สามารถเกิดได้บริเวณหัวนม ลานนม และบริเวณอื่นนอกเหนือจากเต้านม (Extramammary Paget’s disease) เช่น อวัยวะเพศ ถุงอัณฑะ
โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ทำให้มีผื่นแดง ขอบเขตชัดเจน มีขุยบางๆ อาจมีอาการคันเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการคันเลย บ่อยครั้งมักจะถูกวินิจฉัยเป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบ
ความแตกต่างคือ ในโรคพาเจ็ตนี้จะไม่ตอบสนองกับยาทาลดอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์ แต่ในกลุ่มผื่นผิวหนังอักเสบจะอาการดีขึ้นหลังจากทายาสเตียรอยด์ แม้ว่าจะมีผื่นจะกลับมาขึ้นซ้ำใหม่ได้ แต่จะมีช่วงที่หายแดงเป็นปกติ
การวินิจฉัยอาการคันหัวนม
จะใช้วิธีซักประวัติ ตรวจร่างกาย ดูลักษณะผื่น บางกรณีสามารถทำการวินิจฉัยได้ทันที บางครั้งต้องอาศัยการขูดผิวหนังเพื่อส่องหาเชื้อราทางกล้องจุลทรรศน์ แต่ในบางรายที่สงสัยภาวะเนื้อร้าย อาจจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อการส่งตรวจ
การรักษาอาการคันหัวนม
ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค โดยมากแล้ว ถ้าเป็นผื่นผิวหนังอักเสบจะรักษาหายได้ด้วยยาทากลุ่มสเตียรอยด์ในเวลาไม่กี่วัน หรือยาทากลุ่มรักษาเชื้อราในผู้ที่มีสาเหตุของการคันหัวนมจากเชื้อรา ซึ่งมักจะต้องทาติดต่อกันนานประมาณ 2-4 สัปดาห์
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์
หากคันหัวนมร่วมกับมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- หัวนมผิดรูป เช่น หัวนมดึงรั้ง ลักษณะหัวนมสองข้างไม่เท่ากันหรือแปลกไปจากเดิม
- คลำได้ก้อนบริเวณเต้านม
- มีน้ำ หนอง หรือของเหลวสีปนเลือดไหลออกมาจากหัวนม
- ผื่นแดงที่ไม่ดีขึ้นหลังยาทา
- ผื่นแดงที่กลับเป็นซ้ำบ่อยๆ
อาการคันหัวนมเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดอาการจะต้องสังเกตอาการ หากพบว่ามีลักษณะคล้ายอาการคันหัวนมที่เป็นอันตราย เช่น หัวนมผิดรูป มีน้ำ มีหนอง หรือผื่นแดง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
ดูแพ็กเกจตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิง เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
อาการผิวหนังอักเสบ จนเป็นแผล เป็นอาการของโรคไตรึเปล่าครับ?