สูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่ที่มีเด็กอยู่ด้วยปลอดภัยจริงหรือ?
มาดูกันว่าผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
“เพื่อนๆ ของผมบอกว่าผมไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าใกล้เด็กๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเพราะมันก็ไม่ได้มีควันมือสองเหมือนบุหรี่ธรรมดาทั่วไป” -มาร์ติน-
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไอน้ำใกล้กับเด็กนั้นไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คุณคิด ไอน้ำที่ถูกพ่นออกมาจากบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเด็ก
มีหลายปัจจัยที่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อเด็ก – เด็กๆ จะได้รับสารพิษหากพวกเขาเผลอดื่มน้ำยานิโคตินสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไป และเด็กๆ อาจป่วยได้หากสัมผัสโดนน้ำยาดังกล่าว เนื่องจากกลิ่นหอมเหมือนขนมหวานที่ใช้แต่งกลิ่นน้ำยานั้นดึงดูดเด็กให้อาจหยิบมาดื่มได้ และอาจดื่มในปริมาณที่มากพอจะทำให้ป่วยและเป็นอันตรายถึงชีวิต
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ คุณควรเก็บอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในที่ปลอดภัย วิธีการนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงโดยง่ายหรืออาจบังเอิญเจอในกระเป๋าที่คุณใช้อยู่เป็นประจำซึ่งแน่นอนจะเป็นอันตรายกับเด็กได้ หากคุณเผลอลืมไว้ในกระเป๋าหรือที่ที่เด็กเข้าถึงง่ายคุณควรล็อคกระเป๋าหรือตู้ไว้ไม่ให้เด็กๆ เปิดเอง วิธีการป้องกันเช่นเดียวกับการเก็บน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ มีด ของมีคม หรืออุปกรณ์อื่นๆ นั่นแหละ
ผู้ปกครองควรเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไว้ในที่ปลอดภัยที่สามารถล็อคได้ แต่เนื่องจากจำนวนของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเพิ่มมากขึ้น เป็นไปได้ว่าเด็กๆ อาจมีโอกาสเข้าถึงน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้นเช่นกัน หากคุณพบว่าเด็กๆ ที่บ้านสัมผัสโดนน้ำยาหรือเผลอดื่มน้ำยาเข้าไป ให้คุณรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลทันที
สัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการนิโคตินเป็นพิษ ดังนี้
- มีไข้และอาเจียนอย่างรุนแรง
- ตัวขาวซีด
- มีเหงื่อออกมากและน้ำลายไหล
- มีอาการชักกระตุก สั่น มีจังหวะการเต้นของหัวใจที่เร็วผิดปกติ และอาจเป็นลมสลบไปได้
แม้แต่ผู้ใหญ่ก็อาจมีอันตรายได้หากมีการสัมผัสโดนน้ำยานิโคตินในปริมาณที่มากเกิน ในขณะที่คุณใช้อุปกรณ์หรือเติมน้ำยา คุณต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและต้องแน่ใจว่าน้ำยานั้นจะไม่หกมาโดนผิว และเมื่อน้ำยาหมดแล้วคุณต้องอ่านคำแนะนำบนฉลากให้ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการทำลายหรือการทิ้งอุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กหรือสัตว์เลี้ยงที่บ้านจะไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านั้นได้