กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

โรคพยาธิลำไส้ ภัยมืดบั่นทอนสุขภาพ

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
โรคพยาธิลำไส้ ภัยมืดบั่นทอนสุขภาพ

พยาธิอาจเป็นกับอวัยวะหลายส่วนของคนเรา เช่น ลำไส้ ตับ กล้ามเนื้อ สมอง และเส้นเลือด จากการสำรวจทั่วทุกภูมิภาคของประเทศโดยพบว่าประชาชนชาวไทยเป็นพยาธิราว 50 เปอร์เซ็นต์ ชนิดของพยาธิอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในภาคต่าง ๆ ของประเทศตามลักษณะภูมิภาค เช่น ภาคใต้พบพยาธิปากขอมาก และอาจแตกต่างกันตามอุปนิสัยในการกิน เช่น ภาคเหนือ-ภาคอิสาน พบพยาธิใบไม้ตับมากเป็นต้น

a6.gif

 พยาธิลำไส้เป็นภัยมืดที่บั่นทอนสุขภาพของคน เนื่องจากไม่พบอาการอะไรมากนัก นอกจากจะทำให้อ่อนเพลีย ซีด และซูบผอมลงเท่านั้น พยาธิลำไส้ที่พบบ่อยในประเทศไทยอาจแบ่งตามลักษณะของการติดต่อได้ 2 ชนิดคือ

  1. ชนิดที่ติดต่อโดยการกิน ที่สำคัญได้แก่ พยาธิตัวกลม พยาธิตัวแบน (ตืด) พยาธิเส้นด้าย และพยาธิแส้ม้า
  2. ชนิดที่ติดต่อโดยตัวอ่อนไชเข้าผิวหนัง ที่สำคัญได้แก่พยาธิปากขอ และพยาธิสตรองจิลอยด์
a6.gif

 อาการและอาการแสดงของพยาธิลำไส้นั้นมีไม่มาก อาจมีอาการปวดท้องเล็กน้อย อาจมีท้องร่วงเล็กน้อยในเด็กอาจพบมีพุงโต ร่างกายผอมซูบ และซีด จากโลหิตจาง ถ้าเป็นพยาธิตัวกลมอาจมีพยาธิลักษณะคล้ายไส้เดือนออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ หรือถ้าเป็นพยาธิตัวแบน (ตืด) อาจพบปล้องแก่ขนาด 0.5 x 1 ซม. สีขาวออกมากับอุจจาระ ถ้าเป็นพยาธิเส้นด้ายจะมีอาการคันบริเวณรอบทวารโดยเฉพาะเวลากลางคืน เป็นต้น


a6.gif

 การวินิจฉัยโรคที่แน่นอนอาศัยการตรวจอุจจาระเพื่อตรวจหาไข่พยาธิ หรือตัวอ่อนพยาธิไข่และตัวอ่อนของพยาธิชนิดต่าง ๆ จะมีลักษณะจำเพาะ การเก็บอุจจาระควรเก็บส่วนที่เหลว ซึ่งจะมีโอกาสพบไข่หรือตัวอ่อนได้มากกว่าอุจจาระก้อนแข็ง

การป้องกัน

  1. กินอาหารที่ปรุงสุกเสมอ
  2. หากจำเป็นต้องกินผักสดให้แช่ผักในน้ำยาตามเวลาที่กำหนดเพื่อทำลายไข่พยาธิ
  3. ไม่ควรใช้อุจจาระเป็นปุ๋ยรดผักหากจำเป็นให้ใช้อุจจาระที่ย่อยสลายแล้วเท่านั้น
  4. การป้องกันพยาธิไชเข้าผิวหนังให้แนะนำใส่รองเท้า และไม่ควรใช้มือเปล่าคลุกดิน
  5. หากสงสัยว่าเป็นพยาธิลำไส้ให้เก็บอุจจาระส่งตรวจ

10 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Prevention and control of intestinal parasitic infections: WHO Technical Report Series N° 749. World Health Organization (WHO). (https://www.who.int/intestinal_worms/resources/who_trs_749/en/)
Parasites. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (https://www.cdc.gov/parasites/index.html)
[Intestinal parasitic diseases as a global health problem]. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23781708)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)