ปกติร่างกายจะได้รับเชื้อไวรัส จุลินทรีย์ และเชื้อโรคต่าง ๆ จำนวนมากมายหลายล้านชนิด ส่วนใหญ่เชื้อโรคเหล่านี้จะถูกทำลายไปเพราะผิวหนัง น้ำลาย น้ำเมือ และกรดในกระเพาะอาหาร เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและเยื่อบุที่มีเมือกของร่างกายก็ยังมีส่วนช่วยป้อกันไม่ให้เชื้อโรคบางชนิดเข้าสู่ร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่เชื้อโรคสามารถผ่านเกราะป้องกันเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคจะถูกทำลายเพราะมีสารประกอบของระบบภูมิคุ้มกันอย่างน้อยหนึ่งชนิดทำหน้าที่สกัดกั้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ระบบภูมิคุ้มกันจะตรวจจับเชื้อโรคหรือเนื้อเยื่อแปลกปลอมโดยใช้สารเคมีที่มีความไวสูงโดยเฉพาะเชื้อที่สามารถทำให้เกิดโรคได้ บางครั้งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไปต่อสารที่ไม่มีอันตราย เช่น ละอองเกสร อาหารบางชนิด ยารักษาโรค เป็นต้น อีกกรณีหนึ่ง คือ ระบบภูมิคุ้มกันไปทำลายเนื้อเยื่อปกติของร่างกายโดยคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ตัวเอง เช่น โรคลูปัส โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามระบบภูมิคุ้มกันก็ยังเป็นด่านที่แข็งแกร่งด่านแรกในการป้องกันโรคที่อาจมีความรุนแรงถึงชีวิตได้
เชื้อโรคติดต่อ เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคมีหลายชนิด เช่น เชื้อไวรัส พยาธิ เป็นต้น ไม่ว่าเชื้อโรคจะมีขนาดเท่าใดหรือเป็นสายพันธุ์ชนิดใด ระบบภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์จะต่อสู้อย่างเต็มที่ ซึ่งการต่อสู้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวนของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
ภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อ โดยเมื่อเชื้อโรคแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย สารเคมีจะส่งสัญญาณให้ระบบภูมิคุ้มกันปฏิบัติการ เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ จะวิ่งมายังบริเวณที่ติดเชื้อเพื่อหยุดยั้งไม่ให้มีการลุกลามไปยังส่วนอื่นของร่างกาย มีเม็ดเลือดขาวกลุ่มหนึ่ง เรียกว่า ฟาโกไซต์ ทำลายเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายโดยการหุ้มและกลืนทั้งตัว เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกัน ลิมโฟไซต์จะปล่อยสารเคมีออกมาทำลายเชื้อที่เข้าสู่ร่างกาย ขณะที่มาสต์เซลล์และอิฌอซิโนฟีลจะหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ หากเป็นเชื้อไวรัส เม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษจะหลั่งสารอินเทอร์เฟอรอน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ป้องกันการแบ่งตัวของไวรัสในเซลล์ร่างกาย
โรคที่สามารถผ่านด่านคุ้มกันด่านแรกของร่างกาย จะพบกับภูมิคุ้มกันที่มีความเข้มแข็งกว่าด่านแรกคือ บีลิมโฟไซต์ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวที่รู้จักและจำเชื้อโรคบางชนิดได้ เมื่อมีเชื้อโรคชนิดนี้เข้ามา เซลล์บีจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและผลิตเซลล์ความจำที่สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์พลาสมาซึ่งทำหน้าที่สร้างตัวภูมิคุ้มกันเพื่อตามหาและทำลายเชื้อดังกล่าว หลังการติดเชื้อเซลล์ความจำที่เหลือก็จะทำปฏิกิริยาทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับเชื้อโรคชนิดเดียวกันนี้อีกครั้ง
ภูมิคุ้มกันด่านที่สอบประกอบด้วยทีลิมโฟไซต์ ซึ่งสามารถต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกและเซลล์มะเร็ง เมื่อทีเซลล์พบกับเชื้อโรคที่รอดจากการถูกทำลายโดยเซลล์ฟาโกไซต์ มันจะผลิตทีเซลล์เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยหาตัวเชื้อและหลั่งสารเคมีที่เรียกว่า ลิมโฟคายด์ออกมาทำลายสิ่งแปลกปลอม การต่อสู้กับเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในทำนองเดียวกัน โรคต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเหล่านี้อ่อนแรง เนื่องจากปัจจัยบางอย่างหรือมีเชื้อโรคจำนวนมากจนสู้ไม่ไหว