กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

อยากเลี้ยงลูกให้เก่ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) ทำอย่างไร

เผยแพร่ครั้งแรก 5 ก.พ. 2019 อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 8 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
อยากเลี้ยงลูกให้เก่ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) ทำอย่างไร

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • เราสามารถเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษาได้ เพราะเด็กแรกเกิดถึง 3 ขวนจะมีการสร้างเซลล์สมองเร็วมาก จึงทำให้เด็กช่วงนี้เรียนรู้ได้ไว เหมาะกับการเรียนรู้ที่สุด 
  • นอกจากนี้การเลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษายังช่วยกระตุนให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้ด้วนอื่นๆ ด้วย ลูกจะสามารถทำได้เร็วและดีขึ้น
  • การเลี้ยงลูกเก่ง 2 ภาษา ควเริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบแรก โดยพ่อและแม่ควรจะตกลงกันว่า จะให้ใครพูดภาษาใดเป็นหลัก เช่น พ่อพูดภาษาไทย แม่พูดภาษาอังกฤษ 
  • จากนั้นควรเตรียมสิ่งของต่างๆ ที่สื่อถึง 2 ภาษา เช่น หนังสือที่จะอ่านให้ลูกฟัง, ของเล่นต่างๆ ที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ฯลฯ การคุยกันกับลูก สื่อสารกับลูก มีประสิทธิภาพกว่าการเปิดเพลงหรือดูหนังภาษาอังกฤษที่เป็นการสื่อสารทางเดียว
  • ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพได้ที่นี่

ในปัจจุบันคู่รักที่มีความแตก ต่างด้านภาษา (พ่อเป็นคนชาติหนึ่ง แม่เป็นคนชาติหนึ่ง) เมื่อมีลูก พ่อและแม่ก็อยากจะให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) ซึ่งเราสามารถฝึกและสอนให้ลูกมีความเข้าใจและพูด อ่าน เขียนให้ได้มากกว่า 1 ภาษาได้ แต่พ่อแม่จะต้องวางแผนและเตรียมตัวเองให้พร้อมค่ะ

เด็กแรกเกิดสามารถฟังภาษาต่างประเทศได้จริงหรือ

เป็นหนึ่งคำถามคาใจของหลายๆ คน สมมติว่าพ่อแม่เป็นคนไทย พูดภาษาไทย แต่ทำไมเด็กแรกเกิดจึงสามารถรู้ความหมายของคำภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นได้ 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ภาษา คือสิ่งสมมติของการสื่อสาร เด็กแรกเกิดสามารถเข้าใจในสารที่เราจะสื่อได้ผ่านการแสดงท่าทาง น้ำเสียง และสีหน้าของผู้พูด 

จึงไม่แปลกหากเราจะเอาเด็กแรกเกิดที่เป็นคนไทยแต่ให้ไปอยู่ในครอบครัวชาวต่างชาติเลี้ยงดูเป็นเวลา 3 ปี เด็กไทยคนนั้นก็สามารถเข้าใจภาษาต่างประเทศได้ (แต่เด็กจะไม่เข้าใจภาษาไทย)

เลี้ยงลูกแบบ 2 ภาษา (หรือมากกว่า) อันตรายหรือไม่

พ่อแม่บางคนอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่นๆ) ด้วย แต่กลัวว่าเดี๋ยวพูดไทย พูดอังกฤษ ลูกจะสับสนและจะกลายเป็นพูดช้า ไม่เข้าใจ ฯลฯ 

แต่ขอให้ทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า เด็กทารกแรกเกิดจน ถึงช่วงอายุ 3 ขวบนั้น จะมีการสร้างเซลล์สมองและมีการพัฒนาด้านสมองอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากเราอยากจะฝึกลูกก็ต้องฝึกในช่วงนี้ เพราะจะฝึกได้ง่ายและเห็นผลเร็วที่สุด

ลูกสาวใช้ภาษาได้คล่องกว่าลูกชายจริงหรือเปล่า

โดยทั่วไปเด็กผู้หญิงจะใช้ภาษาได้คล่องกว่าเด็กผู้ชาย (เมื่อเทียบอายุเท่ากัน) เนื่องจากสมองซีกซ้าย (ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการทำงานเรื่องการใช้ภาษา) ของเด็กผู้หญิง จะเริ่มต้นทำงานได้เร็วกว่าเด็กผู้ชาย ทำให้ลูกสาวมักจะพูดได้เร็วกว่าลูกชาย 

แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงว่า เราจะไม่สามารถเลี้ยงลูกชายให้เก่ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) ได้ เพียงแต่ต้องเข้าใจในส่วนนี้ด้วยว่าอาจจะช้ากว่าลูกสาวเล็กน้อย

เลี้ยงลูกให้เก่ง 2 ภาษา เพิ่มสติปัญญาด้านอื่นๆ ของลูกจริงหรือ

จริงค่ะ เพราะว่าสมองของลูกจะถูกกระตุ้นและได้รับการพัฒนา ทำให้พัฒนาการและการเรียนรู้ด้านอื่นๆ ลูกจะสามารถทำได้เร็วและดีขึ้น

จะเลี้ยงลูกให้เก่ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) พ่อแม่ต้องทำอย่างไร

เมื่อพ่อแม่ตั้งใจที่จะให้ลูกเก่ง 2 ภาษา (หรือมากกว่า) แล้วควรลงมือทำทันที เริ่มได้ตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึง 3 ขวบแรก โดยพ่อและแม่ควรจะตกลงกันว่า จะให้ใครพูดภาษาใดเป็นหลัก เช่น พ่อพูดภาษาไทย แม่พูดภาษาอังกฤษ 

เวลาเลี้ยงลูก ก็ควรที่จะพูดกับลูกตามภาษาที่ตัวเองตกลงกันไว้ จากนั้นควรเตรียมสิ่งของต่างๆ ที่สื่อถึง 2 ภาษา เช่น หนังสือที่จะอ่านให้ลูกฟัง, ของเล่นต่างๆ ที่มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ฯลฯ 

การใช้ชีวิตปัจจุบันก็ยังคงดำเนินไปได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพูดคุยกับลูกด้วยภาษาที่ตกลงกันไว้ พ่อแม่ไม่ควรกังวลว่า ลูกจะเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังสื่อสารกับลูกหรือไม่ แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ ความชัดเจนของคำและ สำเนียงที่พูดออกไป เพราะลูกจะจดจำคำจากสิ่งที่ลูกได้ยินนั้นเอง

การจะกระตุ้นให้ลูกมีทักษะด้านภาษา ไม่ใช่แค่การเปิดเพลงหรือภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ แต่สิ่งที่ได้ผลมากกว่าคือการพูดคุย การโต้ตอบต่างๆ เพราะเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง เด็กจะสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านภาษาได้ไวกว่าการสื่อสารทางเดียว อย่างเช่น การเปิดเพลง การดูภาพยนตร์

การจะเลี้ยงลูกให้เก่งหลายภาษา พ่อแม่ต้องใช้ความอดทนสูง หากพ่อแม่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษานั้น  เช่น พ่อแม่เป็นคนไทยทั้งคู่ แต่คนหนึ่งต้องพูดภาษาชาติอื่น จึงอาจจะเป็นสิ่งที่ท้าทายพ่อแม่พอสมควร

ดูแพ็กเกจปรึกษาตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Chontelle Bonfiglio, How to Raise a Bilingual Child – Choose your method (https://bilingualkidspot.com/2...), 30 May 2016
Colin Baker, A Parents' and Teachers' Guide to Bilingualism (3rd Ed.): Third Edition (Parents' and Teachers' Guides) 3rd Edition
Antonella Sorace and Bob Ladd, Raising Bilingual Children (https://www.linguisticsociety....)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป