แม่จะจัดการกับการร้องอาละวาดในที่สาธารณะของลูกได้อย่างไร?

พฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีแต่นี่เป็นวิธีการที่คุณแม่ตัวจริงใช้จัดการกับการร้องอาวละวาดในที่สาธารณะ
เผยแพร่ครั้งแรก 1 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
แม่จะจัดการกับการร้องอาละวาดในที่สาธารณะของลูกได้อย่างไร?

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการจัดการกับกรร้องอาละวาดของเด็กถือเป็นสิ่งที่ดี แต่การฝึกระเบียบวินัยที่บ้านเป็นเรื่องที่ง่ายกว่ามาก แต่บางครั้งเมื่อคุณอยู่ที่ร้านค้าและเกิดการอาละวาดครั้งใหญ๋ คุณก็มีทางเลือกไม่มากนัก โดยเฉพาะเมื่อคุณยังต้องซื้อของอีกจำนวนมาก นี่จึงเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับการที่แม่จัดการกับลูกมีการอาละวาดในที่สาธารณะด้วยวิธีการที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนร่วมกับวิธีการเฉพาะตัว แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก็คือแต่ละสถานการณ์และเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

1. ให้เวลาเด็กได้สงบสติอารมณ์

"ฉันลดตัวนั่งลงอยู่ในระดับเดียวกับลูกสาวของฉันและพูดกับเธออย่างสงบ แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่เราไม่มีเวลา เธอเอาแต่นั่งลงและกรีดร้อง ฉันบอกเธอว่าเราต้องไปแล้ว เรานั่งอยู่ระหว่างประตูเลื่อนที่ร้าน Target ประมาณ 20 นาที ก่อนที่เธอจะเริ่มสงบลงและเราเดินกลับไปซื้อของในร้าน โชคดีสำหรับฉันที่รถเข็นที่เราใส่ของไว้ยังอยู่ สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ก็คือทำตัวให้สงบ คุณอาจจะกำลังเดือดอยู่ภายในแต่ก็ต้องทำให้ตัวเองสงบต่อหน้าลูกและอดทน มันอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 20 นาที ก่อนที่การร้องอาละวาดนี้จะจบลง แต่มันก็จะหยุดในที่สุด และหากวิธีอื่นใช้ไม่ได้ผลก็อย่ากลัวที่จะปล่อยรถเข็นของคุณทิ้งไว้แล้วเดินออกไป" – แม่ของลูกสาวอายุ 3 ขวบ

อย่าสนใจการอาละวาด

"เมื่อลูกของฉันอายุได้ 2 ขวบ เรากำลังอยู่ใน้ราน Target และเธอก็เริ่มร้องอาละวาดเพราะอยากได้ของเล่น เธอนั่งอยู่ในรถเข็นและพยายามเตะและกรีดร้อง แต่ฉันก็เดินซื้อของจนเสร็จ คำแนะนำที่ดีที่สุดคืออย่าสนใจ" – แม่ของลูกสาวหนึ่งคน

2. มีขนมติดมือ

"ฉันอ่านและทำตามคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการกับการร้องอาละวาด จริงๆ ก็คือแค่เรียกชื่อลูกและบอกว่าพวกเขากำลังเศร้าหรือกำลังโกรธซ้ำๆ จนกว่าพวกเขาจะสงบลง การยื่นทิชชู่ให้ลูกก็ดูเหมือนจะช่วยได้ ฉันรู้ว่ามันแปลกแต่เราก็ทำมันที่บ้านเช่นกัน ดังนั้นฉันคิดว่าการทำอย่างสม่ำเสมอช่วยได้ นอกจากนั้นฉันพยายามให้ตัวเองมีขนมติดมือไว้ตลอด มันมักจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอาละวาดหรือเบี่ยงเบนความสนใจได้" – แม่ของลูกชายอายุ 2.5 ขวบ

"ขนมเป็นสิ่งที่สำคัญ ฉันไม่ชอบที่จะใช้ขนมแก้ปัญหาทุกครั้งที่เราเดินซื้อของ แต่ฉันก็พยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่หิวก่อนเราออกจากบ้าน บางครั้งที่ฉันพบว่าพวกเขากำลังจะเริ่มโวยวาย ฉันก็ถามว่าพวกเขากำลังหิวหรือเปล่าพวกเขาก็มักจะตอบว่าหิว" – แม่ของเด็ก 2 คน

3. เก็บของและเดินออกไป

"มีครั้งหนึ่งในร้านอาหาร ลูกชายของเรากำลังเข้าสู่ช่วงที่พาไปกินข้าวนอกบ้านไม่ได้เลย สามีของฉันพาลูกออกนอกร้านในขณะที่ฉันสั่งอาหารทั้งหมดกลับบ้าน ขอบคุณ และทิปพนักงานของเราก่อนจะออกจากร้าน" – แม่ของลูกชายอายุ 3 ขวบ

"ฉันเคยจับลูกสาวของฉันที่กำลังเตะและกรีดร้องพาดบ่าครั้งหนึ่ง เมื่อมันถึงจุดนี้คุณจะต้องสงบ บางครั้งมันก็ไม่มีอะไรที่คุณามารถทำได้ พวกเขาต้องการออกไปจากที่นี่และจะสงบลงในไม่ช้า" – แม่ของลูกสาวอายุ 2 ขวบ

4. กอดลูกของคุณ

"ลูกชายอายุ 2 ขวบของฉันมักต้องการการกอด เขาจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงอแงเมื่อเขาเหนื่อยมากๆ และฉันก็มักจะระบุได้ว่าควรหลีกเลี่ยงช่วงดังกล่าวได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไปสำหรับเด็กที่กำลังเหนื่อยและหิวไม่ใช่เรื่องที่ดี เราเรียกรถเข็นของเราว่าจรวด ซึ่งช่วยให้ลูกชายของเรามีความสุขขณะที่เรากำลังซื้อของได้ และแทนที่จะให้เขาเดินหรือนั่งอยู่ในเบาะ (เรามีรถเข็นคันใหญ่ที่มีที่นั่งของเด็กขนาดใหญ่) หลังจากดูของเล่น ฉันก็เตือนว่าจรวดกำลังจะออกเดินทางไปสู่พระจันทร์ และพวกเขาต้องรีบนั่งและรัดเข็มขัดเพื่อที่จะได้ออกเดินทาง พวกเขาก็ลืมว่าตัวเองกำลังจะขอของเล่นประมาณ 20 ชิ้นและลืมว่าพวกเขาไม่ได้อยากจะออกจากแผนกของเล่นไปในทันที" – แม่ของลูกชายอายุ 2 ขวบและลูกสาวอายุ 4 ขวบ


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Donna Christiano, What to Expect from the Terrible Twos (https://www.healthline.com/health/parenting/terrible-twos) 25 February 2019
mayoclinic.org, Temper tantrums in toddlers: How to keep the peace (https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/tantrum/art-20047845 )

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป