การเคลื่อนที่จะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อสุขภาพยุคลดิจิทัลไปอย่างไร

เผยแพร่ครั้งแรก 21 ก.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
การเคลื่อนที่จะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อสุขภาพยุคลดิจิทัลไปอย่างไร

เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมีความก้าวหน้าไปมากขึ้น ภาคสังคมก็เริ่มทำความเข้าใจกับมันมากขึ้นเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน การปฏิวัติยุคดิจิทัลในระบบสุขภาพนั้นก็เกิดขึ้นเป็นอย่างดีด้วยการสนับสนุนของนโยบาย Affordable Care Act ที่ต้องการติดตามผลของการรักษา การใช้เทคโนโลยีไร้สายแบบสวมใส่ได้ซึ่งสามารถส่งผ่านข้อมูล สร้างสุขภาพและสุขภาวะใหม่ให้เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปมากขึ้น 

ผู้ป่วยที่ฉลาดจะเป็นผู้ควบคุมสุขภาพของตนเอง 

Dr. Leslie Saxon ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและผู้บริหารศูนย์ USC Center for Body Computing ได้อธิบายถึงรูปแบบสุขภาพยุคปัจจุบันซึ่งเป็นระบบให้การบริการนั้นว่าอาจจะไม่ได้ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้มากที่สุด 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การเป็นผู้ป่วยนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย ตัวอย่างเช่น การเข้าถึงข้อมูลเวชระเบียนของตนเองนั้นก็อาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์ทั้งหลายยินดีต้อนรับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมาก เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกมากขึ้น และยังอาจพัฒนาประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วยโดยให้พวกเขาได้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนและสร้างความสัมพันธ์ที่สมดุลมากขึ้นกับผู้ให้บริการทางการแพทย์ 

ในปัจจุบันมีหลายคนที่ใช้เครื่องมือยุคดิจิทัลมาตอบสนองความต้องการทางสุขภาพ เช่น Saxon และทีมงานที่มหาวิทยาลัย USC ได้คิดค้นแอปพลิชั่นที่ชื่อ Biogram ซึ่งขยายทางเลือกในการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจออกไปไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน เครื่องติดตามการเต้นของหัวใจที่ติดไว้กับเคสโทรศัพท์มือถือของผู้ป่วยจะสามารถติดตามและเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ตลอด Biogram เป็นแอปพลิชั่นฟรีที่พัฒนาขึ้นโดยใช้อุปกรณ์วิจัยของบริษัท Apple ทำให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์รูปภาพของการเต้นหัวใจของพวกเขาและโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ได้ 

ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนสามารถวิเคราะห์ภาพและผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำกลับไปโดยไม่ต้องมีการนัดหมายพบแพทย์ นอกจากนั้นแอปพลิเคชั่นนี้ยังช่วยพัฒนางานวิจัยทางสุขภาพโดยการรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานจำนวนมากและนำมาเปลี่ยนให้เป็นผู้เข้าร่วมงานวิจัย (โดยที่ผู้ใช้งานอนุญาตให้ใช้ข้อมูลดังกล่าว) 

นี่อาจจะเป็นหนึ่งในการใช้เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและอาจพัฒนาสุขภาพของประชากรได้ 

สื่อสารกับแพทย์ (ในโลกเสมือนจริง) ของคุณ 

คลินิกในโลกเสมือนจริงนั้นเป็นสถานที่ที่ผู้ป่วยสามารถพูดคุยกับภาพเสมือนจริงของแพทย์ประจำตัวพวกเขา ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นทดลองและมันอาจจะกลายเป็นกระแสหลักในอนาคต มันสามารถทำให้คุณเข้าถึงแพทย์ผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาและขอคำแนะนำที่มีหลักฐานรองรับซึ่งจะปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ นอกจากนั้นการพูดคุยผ่านวิดีโอออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญและการแพทย์ทางไกลรูปแบบอื่น ๆ นั้นก็กำลังเป็นเรื่องที่พบได้มากขึ้นและเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณภาพของกล้องโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันเริ่มดีมากขึ้นจนทำให้แพทย์สามารถตรวจร่างกายได้ 

การให้บริการสุขภาพในโลกเสมือนจริงนี้มีประโยชน์มากกว่าการมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เนื่องจากทำให้ผู้ให้บริการทางการแพทย์สามารถให้บริการเฉพาะบุคคลได้ระหว่างที่ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการได้อย่างรวดเร็ว 

สมาร์ทโฟนกำลังปิดช่องว่างระหว่างโลกดิจิทัล 

หลายคนเชื่อว่าความนิยมของสมาร์ทโฟนนั้นจะช่วยทำให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้ 

และเมื่อมีคนจำนวนมากขึ้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้วยโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ทุกคนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพได้เช่นกัน มีแอปพลิเคชั่นฟรีและราคาไม่แพงหลายแอปที่สอนและพัฒนาผู้ป่วยในหลายด้าน เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือและแอปพลิเคชั่นสามารถส่งเสริมให้ผู้ที่อาจจะขาดการติดตามไปกลับมาได้รับการติดตามผลได้ นอกจากนั้นสมาร์ทโฟนยังเป็นช่องทางที่ดีสำหรับการป้องกันโรคต่าง ๆ และสามารถช่วยผู้ป่วยในการดูแลสุขภาพและสุขภาวะของตนเองโดยการเข้าถึงข้อมูลและร่วมดูแลสุขภาพของตนได้ 

คนหลายล้านคนอาจรู้สึกว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนนี้มีประโยชน์ โดยเฉพาะการส่งเสริมเทคโนโลยียุคดิจิทัล เราสามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ผ่านการใช้สื่อเหล่านี้ กลุ่ม The Young Invincibles นั้นเป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไรที่ทำวิจัยในกลุ่มคนอายุระหว่าง 18-34 ปีได้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีในการนำมาใช้พัฒนาชีวิตของผู้ที่อายุน้อย พวกเขามีการส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเพื่อให้ได้รับทางเลือกที่แตกต่างกันในการดูแลสุขภาพและค้นหาการให้บริการทางการแพทย์ หน่วยงานนี้ยังพัฒนาแอปพลิเคชั่นฟรีชื่อ Healthy Young America ซึ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและการเข้าถึงการให้บริการสุขภาพขั้นพื้นฐานในคนกลุ่มนี้อีกด้วย


1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
who.int, The movement will change the mind towards digital health. (https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/326127/Eurohealth-V25-N2-2019-eng.pdf?ua=1)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
หลักการป้องกันอันตราย อันเกิดจากงานอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม
หลักการป้องกันอันตราย อันเกิดจากงานอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม

รวมคำแนะนำสำหรับการปฏิบัติตนหากต้องทำงานในอุตสาหรรมเครื่องจักร หรือสารเคมีที่เสี่ยงอันตราย

อ่านเพิ่ม