อ่านข้อมูลที่น่าสนใจผ่านข้อสงสัยต่างๆ ที่คุณเองก็อาจเคยตั้งเป็นคำถาม เช่น ค่าความดันโลหิตเท่าใดที่จัดว่าปกติและเท่าใดที่จัดว่าสูง มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดที่ช่วยให้ผู้ป่วยภาวะเส้นโลหิตในสมองแตกฟื้นตัวเร็วขึ้น แล้วมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดที่ช่วยป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบให้ไม่เกิดซ้ำได้ หากคุณสนใจ สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
Q : “โพรสตาแกลนดิน” คืออะไร และมันดีหรือไม่ดี ฉันได้รับคําแนะนําให้รับประทานแอสไพรินวันละหนึ่งเม็ด เพื่อยับยั้งการสร้าง โพรสตาแกลนดิน ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ฉันก็อ่าน พบว่าสารโพรสตาแกลนดินนี้ช่วยลดความดันโลหิต หากเป็นเช่นนั้นจริง เราจะยับยั้งการสร้างสารตัวนี้ทําไม ฉันสับสนมากค่ะ
A : ผมเข้าใจครับว่าทําไมคุณจึงสับสน โพรสตาแกลนดินเป็นสารคล้าย ฮอร์โมน ที่ควบคุมปฏิกิริยาซับซ้อนมากมายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย สําหรับโพรสตาแกลนดินบางตัว หากมีมากเกินไปจะก่อให้เกิดโรคหัวใจ การอักเสบและอาการปวดได้ แอสไพรินเข้าไปยับยั้งโพรสตาแกลนดิน “ชนิดร้าย” เหล่านี้ จึงถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องที่ไม่ดีก็คือ แอสไพรินก็ไปยับยั้งการสร้างโพรสตาแกลนดิน “ชนิดดี”ด้วย ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน
คุณจะเห็นว่าในขณะที่โพรสตาแกลนดินชนิดร้ายทําให้เลือดเกาะตัวเป็นลิ่มก่อให้เกิดโรคเส้นโลหิตในสมองแตกหรือตันและโรคหัวใจ โพรสตาแกลนดินชนิดดีก็ช่วยลดความดันโลหิต ต้านการเกาะกันของลิ่มเลือด และการสร้างของ คอเลสเตอรอล รวมไปถึงลดปฏิกิริยาการอักเสบด้วย หรืออีกนัยหนึ่งคือ โพรสตาแกลนดิน“ชนิดดี” มีประโยชน์กับหัวใจ เช่นเดียวกับแอสไพริน โดยที่ไม่ทําให้กระเพาะอาหารระคายเคือง ปัญหาคือ เราจะต้องทําอย่างไรให้โพรสตาแกลนดินชนิดที่มีมากกว่าโพรสตาแกลนดินชนิดไม่ดี น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน การรับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ขัดขาวปริมาณสูง การติดเชื้อไวรัส และการหลั่งของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่มากกว่าปกติเนื่องมาจากความเครียด เป็นปัจจัยที่ทําให้เกิดโพรสตาแกลนดินชนิดไม่ดี และลดปริมาณโพรสตาแกลนดินชนิดดี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคือน้ำมัน โอเมก้า-3
Q : เมื่อพูดถึงความดันโลหิต ค่าเท่าใดที่จัดว่าปกติ และเท่าใดที่ จัดว่าสูง
A : เป็นคําถามที่ดีมากครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากความดันโลหิตตัวบน (ซิสโทลิก) อยู่ระหว่าง 100-140 และตัวล่าง (ไดแอสโทลิก) อยู่ระหว่าง 60-90 จะถือว่าความดันโลหิตปกติ แต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านความดันโลหิต สถาบันหัวใจปอดและเลือดแห่งชาติ (National Heart, Lung and Blood Institute) สหรัฐอเมริกา ได้ออก แนวทางการวินิจฉัยใหม่ ที่มีเกณฑ์ต่ำกว่าเดิม ดังนั้น ในปัจจุบัน ความดัน โลหิตที่ต่ํากว่า 120 และ 80 เท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นปกติ หากความดันโลหิต มากกว่าหรือเท่ากับ 140 และ 90 จะจัดว่าความดันโลหิตสูง
Q : ฉันต้องทํางานกับเครื่องทอผ้าทั้งวัน และคิดว่าตัวเองกําลังจะเป็น โรคเส้นประสาทกดทับบริเวณข้อมือ (CTS หรือ Carpal tunnel Syndrome) คุณจะแนะนําผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอะไรให้บ้างได้ไหมคะ
A: อาชีพที่คุณทําส่งผลให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เส้นประสาท ที่อักเสบซ้ำๆส่งผลมาจากการใช้งานของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณนิ้ว มือ แขน และไหล่มากเกินไป ผมขอแนะนําให้รับประทานวิตามินบีรวม ซึ่งมีบี 6 ขนาด 50 มก. วันละ 3 เวลา เอ็มเอสเอ็มขนาด 1,000 มก. พร้อมด้วยวิตามินซีคอมเพล็กซ์ เช้าและเย็น Ev.Ext-33 1 แคปซูล วันละ 2 เวลา และเซนต์จอห์นส์วอร์ตร่วมกับพอลิฟีนอล วันละ 1 เม็ด จนกว่าอาการจะดีขึ้น
Q : คุณพ่อของผมกําลังฟื้นตัวจากภาวะเส้นโลหิตในสมองแตก ท่าน อยากหายเร็วขึ้น คุณมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนะนําไหมครับ
A : พบว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยและดีเอ็มเออีช่วยส่งเสริมการทํางานของสติปัญญาและความจํา โดยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์สมอง ผมแนะนําให้คุณพ่อของคุณรับประทานเอ็มวีพี 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้าและเย็น พร้อมด้วยสารสกัดจากใบแปะก๊วย 60 มก.แบบ สตรราบ (แบบที่มีคลับมอสส์ วินโพเซทีน ฟอสฟาทิดิลเซรีน โคลีน มาโคปา และดีเอ็มเออีรวมอยู่ด้วย) วันละ 3 เวลา
Q : ฉันเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำบ้างไหมคะ
A : การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทําให้ปัสสาวะเป็นกรดมากขึ้นจะช่วย บรรเทาอาการและลดการกลับเป็นซ้ำได้
น้ำแครนเบอร์รี่ช่วยให้แบคทีเรียที่ก่อปัญหาไม่สามารถเกาะกับผนังทางเดิน ปัสสาวะ (แครนเบอร์รี่มีสารที่เรียกว่าแอนโทไซยาโนไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) หากคุณรู้สึกว่าน้ำแครนเบอร์รี่สดๆรสฝาดเกินไป แต่ก็ ไม่อยากดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ผสมน้ำตาล คุณอาจเลี่ยงไปรับประทานแครนเบอร์รี่ สกัดเข้มข้น 1-2 แคปซูล วันละ 1 - 3 เวลา และควรดื่มน้ําเปล่าอย่างน้อย วันละ 6-8 แก้ว หลีกเลี่ยงกาเฟอื่น แป้งและน้ำตาลไม่ขัดขาว แอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะตามธรรมชาติ (ผักชีฝรั่ง ขึ้นฉ่ายฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง วอเตอร์เครส) และลดการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว ซึ่งทําให้ ปัสสาวะเป็นด่าง และส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย คุณอาจรับประทานโพแทสเซียมเสริม 95 มก.ต่อวัน ร่วมกับเอ็มวีพี เพื่อทดแทนโพแทสเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ
หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุน ดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล