ระดับวิตามินดีที่เหมาะสม

เผยแพร่ครั้งแรก 6 ก.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ระดับวิตามินดีที่เหมาะสม

ผู้ป่วยหลายคนมักจะถามว่าขอตรวจระดับวิตามินดีได้หรือไม่? พวกเขาอาจมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคกระดูกพรุน หรือตัวเองอาจจะเป็นเอง ส่วนมากพวกเขาอยากรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้กระดูกนั้นแข็งแรงขึ้น วิตามินดีนั้นจำเป็นต่อการมีกระดูกที่แข็งแรงแต่การตรวจวัดระดับวิตามินดีในเลือดนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์

การระบุระดับที่เหมาะสมของวิตามินดีนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

แล้วระดับวิตามินดีเท่าไหร่ถึงเรียกว่าต่ำและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุนหรือหัก? (เรากำลังพูดถึงระดับของ 25-hydroxy-vitamin D ในเลือดซึ่งมักจะวัดในหน่วยนาโนกรัมต่อมิลลิลิตร)

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

เมื่อปี 2010 Institute of Medicine (IOM) ได้ออกรายงานเกี่ยวกับการทดสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยสรุปก็คือพวกเขาประมาณว่าระดับวิตามินดีที่ 20 ng/mL หรือสูงกว่านั้นเพียงพอต่อการมีสุขภาพของกระดูกที่ดี และหากต่ำกว่า 20 จะถือว่ามีภาวะขาดวิตามินดี

ในชีวิตจริงส่วนใหญ่นั้น การพบระดับวิตามินดีที่ต่ำกว่า 20 นั้นเป็นเรื่องที่พบได้ไม่บ่อย และเมื่อพบก็จะบอกพวกเขาว่าขาดวิตามินดีและต้องได้รับวิตามินดีเสริมอย่างเร่งด่วนรวมถึงในระยะยาว  ส่วนมากผู้ป่วยมักจะมีระดับวิตามินดีอยู่ระหว่าง 20-40

แต่ในปี 2011 สมาคมโรคเบาหวานก็ได้มีการออกรายงานเพื่อโต้แย้งรายงานดังกล่าว โดยสรุปว่า อย่างน้อยเราควรจะต้องมีวิตามินดี 30 ng/mL และเนื่องจากการทดสอบในแต่ละเครื่องนั้นอาจจะต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอ ควรมีวิตามินดีอยู่ระหว่าง 40-60 ng/mL ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

ความคิดเห็นล่าสุดเกี่ยวกับระดับวิตามินดีที่เหมาะสมนั้นมาจากบทความที่ชื่อว่า “การขาดวิตามินดีนั้นเป็นโรคระบาดระดับโลกจริงหรือ?” ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine ในบทความนี้ผู้ที่มีส่วนร่วมในการเขียนรายงานของ IOM นั้นได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าน่าจะยอมรับการมีวิตามินดีในเลือดที่ต่ำกว่า 20 แต่ไม่ควรใช้ค่านี้ในการวินิจฉัยว่ามีการขาดวิตามินดี พวกเขาคิดว่าในปัจจุบันกำลังมีการคัดกรองภาวะขาดวิตามินดีที่มากเกินไปและทำให้เกิดการรักษาที่ไม่จำเป็นขึ้นในผู้ป่วยที่มีสุขภาพแข็งแรง

พวกเขาเสนอว่าการวินิจฉัยภาวะการขาดวิตามินดีนั้นควรมีวิตามินดีในระดับที่ต่ำกว่า 12.5 ng/mL ข้อมูลดังกล่าวนั้นได้จากการข้อมูลแบบสอบถามทางโภชนาการขนาดใหญ่ และการตั้งเกณฑ์การวินิจฉัยที่ 12.5 ng/mL นั้นจะกำจัดปัญหาที่กล่าวว่าการขาดวิตามินดีนั้นกำลังเป็นปัญหาระดับโลกได้อย่างแน่นอน

แต่หลังจากนั้นก็มีบทความและความคิดเห็นอื่นๆ ที่ทั้งออกมาโต้แย้งและสนับสนุนงานวิจัยและแนวทางการรักษาอื่นๆ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

บางคนเน้นที่ว่าเราจะสามารถระบุภาวะขาดวิตามินดีได้อย่างไร? และมันคืออะไร?

ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งเห็นด้วยกับผู้เขียนบทความในวารสาร NEJM ว่าในปัจจุบันนั้นมีการคัดกรองภาวะการขาดวิตามินดีที่มากเกินไป และทำให้มีการรักษาที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้นในผู้ที่สามารถได้รับวิตามินดีจากอาหารและแสงแดดอย่างเพียงพอ และเราไม่จำเป็นต้องทำการตรวจระดับวิตามินดีในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

ยิ่งไปกว่านั้นการที่มีวิตามินดีสูงนั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อมนุษย์แต่อย่างใด วิติมนดีนั้นพบได้ค่อนข้างน้อยในอาหารแต่เราสามารถได้รับจากแสงแดด แต่คนที่อยู่ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดมากนั้นก็มีสีผิวที่คลำขึ้น ดังนั้นหากวิตามินดีนั้นจำเป็นสำหรับมนุษย์ ทำไมร่างกายเราถึงมีวิวัฒนาการแบบนั้น

แล้วใครที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจภาวะขาดวิตามินดี?

งานวิจัยล่าสุดที่ทำการศึกษาผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน 2000 คนและติดตามต่อเนื่อง 10 ปีพบว่าการมีระดับวิตามินดีที่ต่ำว่า 20 นั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกหักเองเล็กน้อย ก่อนที่จะสรุปว่าเนื่องจากการที่วิตามินดีนั้นพบได้น้อยในอาหารและแนะนำให้รับประทานวิตามินดีเสริมในผู้หญิงวัยกลางคนที่มีระดับวิตามินดีน้อยกว่า 20 ng/mL

ในผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักนั้นควรมีระดับวิตามินดีที่มากกว่า 20 แต่ในบุคคลทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรงนั้นควรมีระดับวิตามินดีที่สูงกว่า 15 หรืออาจจะต่ำได้ถึง 10 ng/mL

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากยังแนะนำให้ทำการตรวจวัดระดับวิตามินดีในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี เช่นผู้ที่เป็นโรค anorexia nervosa, ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดกระเพาะลดความอ้วน ผู้ที่มีปัญหาในการดูดซึมอาหารเช่นโรคเซลิแอค หรือผู้ที่มีผิวหนังสีเข้มหรือได้รับแสงแดดในปริมาณน้อย ประชากรบางกลุ่มควรมีระดับวิตามินดีที่สูงกว่า 20 ng/mL เช่นผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะกระดูกบาง และกระดูกพรุนหรือโรคทางกระดูกอื่นๆ เช่นเดียวกับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ซึ่งควรได้รับการตรวจและให้การรักษาตามความเหมาะสม


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
How Much Vitamin D Should You Take For Optimal Health?. Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/how-much-vitamin-d-to-take)
Vitamin D: What’s the “right” level?. Harvard Health. (https://www.health.harvard.edu/blog/vitamin-d-whats-right-level-2016121910893)
Vitamins and minerals - Vitamin D. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/conditions/vitamins-and-minerals/vitamin-d/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป