ของใช้เก่าเก็บ ขาดการดูแล … ภัยในบ้านที่คุณคาดไม่ถึง
ของอะไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน โละ ล้าง หรือดูแลรักษาตามสมควร โดยเฉพาะของใช้ในบ้านเหล่านี้ ที่หากปล่อยไว้ไม่ดูแล หรือทู่ซี้ใช้ของเก่าเก็บต่อไป ก็อาจกลายเป็นภัยใกล้ตัวที่คุณคาดไม่ถึง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. แปรงสีฟันเก่า
รู้ไหมว่าแปรงสีฟันที่ใช้มานานปีจนขนแปรงบานและเหลืองนั้น นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดฟันลดลงแล้ว ยังเป็นที่สะสมของเชื้อโรคแบคทีเรียจากช่องปาก โดยเฉพาะเวลาที่เราป่วย เช่น เป็นหวัด หรือเจ็บคอ เชื้อโรคเหล่านั้นก็จะสะสมและแฝงตัวอยู่ในแปรงสีฟันด้วย หากใช้ไปเรื่อยๆ นอกจากจะทำให้แปรงฟันไม่สะอาด มีเชื้อโรคในปากมากขึ้น ยังอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยได้อีก
Tip: แปรงสีฟันควรเปลี่ยนใหม่ทุก 2-3 เดือน
2. ฟองน้ำล้างจานเก่า
ฟองน้ำล้างจาน หรือสก็อตไบรท์เก่าแก่ที่ใช้จนผิดรูป หรือส่งกลิ่นเหม็นโฉ่ นอกจากจะใช้ล้างจานชามได้ไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็นคาวและคราบมันติดตามภาชนะแล้ว ฟองน้ำพวกนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรีย แค่คิดว่าเราต้องกินเชื้อโรคเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมาก็น่าขนลุกแล้ว!
Tip: เมื่อเห็นว่าฟองน้ำเริ่มดูผิดรูป หรือมีกลิ่นเหม็นบูดก็ควรเปลี่ยน ยิ่งถ้ามีเชื้อราขึ้นเป็นจุดดำๆ ก็ต้องรีบโยนทิ้งและเปลี่ยนให้ไวเลย
3. เครื่องปรับอากาศที่ไม่เคยล้าง
แอร์ที่เราเปิดกันทุกเมื่อเชื่อวันเป็นอีกหนึ่งของใช้ที่ไม่ควรละเลย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองในตัวเครื่องย่อมเป็นที่กักเก็บฝุ่นละอองต่างๆ จากภายนอกบ้าน ดังนั้น การใช้แอร์ทุกวันเป็นเวลานานโดยไม่ล้างเลย จะทำให้อากาศที่ถูกกรองเข้ามาและเราใช้หายใจนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ป่วยเป็นภูมิแพ้ เครื่องปรับอากาศแบบนี้จะกลายเป็นภัยร้ายโดยไม่ต้องสงสัย
Tip: ควรล้างแอร์ปีละ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความบ่อยในการใช้งาน และสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยด้วย หากบ้านอยู่ในแถบที่มีมลพิษมากๆ อาจต้องล้างแอร์ทุกๆ 3 เดือนเลยทีเดียว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
4. เครื่องนอนและที่นอนซึ่งไม่เคยเปลี่ยน
ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม ที่ไม่เคยซักหรือเปลี่ยนเลย จะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง และเชื้อโรคสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มาจากเหงื่อไคลของเรา (โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอาบน้ำก่อนนอน) อีกทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋วอย่าง ตัวไรฝุ่น ที่คอยไต่ยั้วเยี้ยไปมาโดยที่เรามองไม่เห็น แต่สามารถสร้างความระคายเคืองแก่ระบบหายใจและผิวหนังของเราได้
ที่นอนหรือฟูกนอนก็เป็นของที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเช่นกัน หากฟูกนอนหมดสภาพจนยุบลงไปตามรูปคนนอนล่ะก็ จะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังตามมา จนถึงอาจทำให้หลังคดผิดรูปในอนาคตได้
Tip: ควรซักและเปลี่ยนเครื่องนอนอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนฟูกนอนควรนำออกมาปัดฝุ่นและตากแดดเดือนละครั้ง และควรเปลี่ยนเมื่อรู้สึกว่าที่นอนเริ่มยุบและไม่คืนรูป
5. ตู้เย็นที่ไม่เคยล้างและทำความสะอาด
เราสำรวจตู้เย็นที่บ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? หากลองเปิดดูแล้วค้นพบผักที่เหี่ยวจนระบุชนิดไม่ได้ ขนมที่หมดอายุมาแล้ว 2 ปี และสารพัดอาหารที่ไม่รู้ว่าซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่นแปลว่าถึงเวลาที่คุณต้องโละและทำความสะอาดตู้เย็นสักที เพราะนอกจากอาหารบูดเน่าจะส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งทั่วตู้เย็นแล้ว มันยังเป็นแหล่งของเชื้อราและแบคทีเรียที่ทนความเย็นนานาชนิด ที่พร้อมจะทำให้อาหารใหม่ๆ ที่เราเก็บเข้าไปเน่าเสียได้ทุกเมื่อ
Tip: ควรสำรวจตู้เย็นอยู่เสมอ ทางที่ดีไม่ควรซื้อของมาเก็บไว้ทีละมากๆ โดยไม่รีบรับประทานให้หมด ในการล้างตู้เย็น ให้เคลียร์ของข้างในออกมาเสียก่อน จากนั้นถอดปลั๊กตู้เย็น และแยกชิ้นส่วนมาล้างทำความสะอาด ส่วนภายในตู้เย็นอาจทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อน เพื่อขจัดกลิ่นเหม็น