วิธีหลั่งภายนอก เป็นการคุมกำเนิดรูปแบบหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย และไม่ต้องรับประทานยาคุมกำเนิด แต่วิธีคุมกำเนิดนี้ไม่ได้ปลอดภัย 100 % และมีข้อเสียอื่นๆ อีกมากมาย
ประสิทธิภาพของวิธีหลั่งภายนอก
อัตราการล้มเหลวของวิธีการหลั่งภายนอกอยู่ที่ 27 % หมายความว่า จะมีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจจากการใช้วิธีหลั่งภายนอก 27 จาก 100 คนต่อปี
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่ในกรณีที่ปฏิบัติวิธีหลั่งภายนอกถูกต้องจะมีอัตราล้มเหลวเพียง 4% ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะผู้ชายจะต้องถอนองคชาตออกจากช่องคลอดของผู้หญิงก่อนหลั่งน้ำเชื้อ และต้องพยายามทำให้น้ำเชื้อ (Cum) กับน้ำหล่อลื่น (Pre-Cum) ออกห่างจากช่องคลอดและปากช่องคลอดด้วย ซึ่งผู้ชายหลายคนไม่สามารถควบคุมในส่วนนี้ได้
การหลั่งภายนอกมักจะนำมาปฏิบัติกัน เพราะผู้ชายบางคนรู้สึกว่าการใส่ถุงยางอนามัยทำให้เกิดความไม่สบายตัว และรู้สึกว่าความพึงพอใจทางเพศลดลง ผลที่ตามมาก็อาจมีทั้งการตั้งครรภ์ และการได้รับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกใช้วิธีนี้กับคู่นอนที่ไว้ใจกันจริงๆ หรือผ่านการตรวจสุขภาพมาแล้วว่าไม่มีโรคติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น
การหลั่งภายนอกจะมีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้ร่วมกับวิธีคุมกำเนิดอื่นๆ เช่น การใช้ยาคุมกำเนิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น คุณควรพกยาคุมฉุกเฉินติดตัวไว้และให้คู่นอนรับประทานทันทีภายใน 72 ชั่วโมง กรณีที่คุณถอนองคชาติออกไม่ทัน หรือพบว่าน้ำเชื้อกระเด็นเข้าสู่บริเวณปากช่องคลอด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์
หากต้องการคุมกำเนิดจริงๆ วิธีนี้ยังไม่ใช่วิธีที่ดีมากนัก และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
ที่มาของข้อมูล
Katherine Caroll, Clue, What’s up with pulling out? (https://helloclue.com/articles/sex/whats-up-with-pulling-out), 10 สิงหาคม 2016.