ทีมเภสัชกร HD
เขียนโดย
ทีมเภสัชกร HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ทุกอย่างที่ควรรู้ เกี่ยวกับยาคุม 21 เม็ด

ยาคุมกำเนิด 21 เม็ดจะต้องกินติดต่อกันในเวลาเดียวกันของทุกวันจนหมด และเว้นว่าง 7 วัน เพื่อให้เป็นช่วงปลอดฮอร์โมน
เผยแพร่ครั้งแรก 10 มี.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 25 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ทุกอย่างที่ควรรู้ เกี่ยวกับยาคุม 21 เม็ด

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ยาคุมกำเนิด 21 เม็ด เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจน และโปรเจสโทรเจน โดยตัวยาจะมีฮอร์โมนเท่ากันทุกเม็ด และไม่มีเม็ดยาหลอก 7 เม็ดเหมือนยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด
  • วิธีการรับประทานยาคุมกำเนิด 21 เม็ด ให้รับประทานอย่างต่อเนื่องในเวลาเดียวกันของทุกวัน วันละ 1 เม็ดจนหมด และเว้นว่าง 7 วันก่อนจะเริ่มรับประทานแผงใหม่
  • ในช่วงเว้นว่าง 7 วัน เรียกว่า "ช่วงปลอดฮอร์โมน" ประจำเดือนจะมาในช่วงนี้ แต่ถ้าครบ 7 วันแล้วยังมีประจำเดือนอยู่ก็ไม่เป็นไร ให้รับประทานแผงใหม่ได้เลย
  • หากลืมรับประทานยาคุมกำเนิดให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ไม่ควรเกิดขึ้นบ่อยนัก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง
  • ควรใช้ยาคุมกำเนิดควบคู่กับถุงยางอนามัย เพราะนอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย (ดูแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ที่นี่)

ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมใช้วิธีรับประทาน “ยาเม็ดคุมกำเนิด” เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เนื่องจากง่ายและได้ผลเป็นอย่างดี โดยมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดถึง 99% 

สำหรับ ยาคุมกำเนิด 21 เม็ด เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาแต่ละเม็ดจะประกอบไปด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสโทรเจน (Progestrogen) ซึ่งมีความสำคัญต่อการป้องกันการตั้งครรภ์ 

โดยตัวยาจะทำให้เมือกบริเวณปากมดลูกมีความเหนียวข้นยิ่งขึ้น อสุจิจึงไม่สามารถว่ายเข้าไปผสมกับไข่เพื่อปฏิสนธิ อีกทั้งยังทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง จนตัวอ่อนที่เกิดจากการผสมกับไข่และอสุจิไม่สามารถฝังตัวและเจริญเติบโตได้ 

หากคุณทราบวิธีกินยาคุม 21 เม็ดที่ถูกต้อง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ก็แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมอีกต่อไป

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ชนิดฮอร์โมน

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 21 เม็ดนั้น ยาทุกเม็ดจะมีฮอร์โมนเท่ากันหมด ไม่มีเม็ดยาหลอก 7 เม็ดเหมือนที่พบในยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด 

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด ให้รับประทานอย่างต่อเนื่องในเวลาเดียวกันของทุกวัน วันละ 1 เม็ดก่อนนอน ตามลำดับของลูกศรที่ชี้ระบุไว้บนแผงไปจนยาหมดแผง 

เมื่อรับประทานยาหมดแผงแล้ว ให้นับเว้นไปอีก 7 วัน ช่วง 7 วันนี้ไม่ต้องรับประทานยาเพื่อให้เป็นช่วงปลอดฮอร์โมน ประจำเดือนก็จะมาในช่วงนี้เอง 

ส่วนใหญ่ในผู้รับประทานยาคุม 21 เม็ด ประจำเดือนมักเริ่มมาในวันที่ 2-4 หลังรับประทานยาหมดแผง เมื่อหยุดรับประทานครบ 7 วันแล้วให้เริ่มแผงใหม่ในวันที่ 8 ต่อไปได้เลย ไม่ต้องสนใจว่า เลือดประจำเดือนจะหยุดแล้วหรือยัง

วิธีกินยาคุม 21 เม็ด โดยไม่ให้สับสนนั้น มีข้อสังเกตง่ายๆ อย่างหนึ่งคือ ถ้าวันที่เริ่มใช้เม็ดแรกของแผงเป็นวันใดในสัปดาห์ เมื่อเว้นครบ 7 วันแล้ว วันที่เริ่มต้นแผงใหม่ก็จะเป็นวันเดียวกันนั้นเสมอ 

ถ้าเริ่มต้นรับประทานยาที่วันจันทร์ ยาเม็ดสุดท้ายของแผงจะหมดในวันอาทิตย์ จากนั้นจึงเว้นว่างอีก 7 วัน คือ จันทร์ > อังคาร > พุธ > พฤหัสบดี > ศุกร์ > เสาร์ > อาทิตย์ เมื่อถึงวันจันทร์ถัดไปจึงเริ่มใช้ยาคุมแผงใหม่ 

หากต้องการดูว่าวิธีกินยาคุม 21 เม็ดที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ หรือลืมรับประทานยาไปหรือเปล่า สามารถสังเกตได้ที่แผงยาคุม หรืออาจใช้แอปพลิเคชันเตือนกินยาคุมช่วย

จะทำอย่างไรดีหากลืมกินตาม วิธีกินยาคุม 21 เม็ด?

หากลืมรับประทานยาคุม 1 เม็ด หรือรับประทานไม่ตรงเวลา เมื่อนึกออกให้รีบรับประทานทันที วันต่อมาก็ให้รับประทานยาในเวลาเดิม 

หากลืมรับประทานยา 2 วันติดต่อกัน ให้รับประทานยาภายในวันนั้น 2 เม็ด แบ่งเป็นเช้าและก่อนนอน และในวันถัดไปอีก 2 เม็ด แบ่งเป็นเช้า และก่อนนอนเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีกินยาคุม 21 เม็ดแบบไม่ค่อยสมบูรณ์นี้ อาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ เวียนหัว คัดตึงเต้านม เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มมากผิดปกติในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่จะสามารถหายได้เองเมื่อฮอร์โมนกลับมาปกติ 

สำหรับผู้ที่ลืมรับประทานยาเกิน 3 เม็ดขึ้นไป ควรหยุดยาคุมแผงนั้น แล้วรอจนกว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งจึงเริ่มรับประทานแผงใหม่ โดยระหว่างนี้หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ก็ควรป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีอื่นไปก่อน 

เนื่องจากประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะลดลงไป และมีโอกาสตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นนั่นเอง แล้วเมื่อรับประทานแผงต่อไปก็อย่าลืมปฏิบัติตามวิธีกินยาคุม 21 เม็ดที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

การรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด และปฏิบัติตามวิธีกินยาคุม 21 เม็ด อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงถึง 99% ถ้าใช้ต่อเนื่องอย่างถูกวิธี แม้ว่าจะมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งใน โดยไม่ได้ป้องกันด้วยการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ ร่วมก็ตาม

นั่นหมายความว่าในผู้หญิง 100 คนที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดเพียงอย่างเดียว อาจพบความผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 1 คน

คำเตือนและข้อควรระวังของวิธีกินยาคุม 21 เม็ด

  • หากรับประทานยาแล้วมีการอาเจียน ต้องรับประทานยาใหม่ซ้ำอีกครั้ง
  • ยาคุมกำเนิดไม่ใช่ยาทำแท้ง และไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้
  • ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมในหญิงตั้งครรภ์ หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี หญิงที่สูบบุหรี่ หญิงที่มีน้ำหนักตัวเกิน หรือหญิงที่มีหลอดเลือดอุดตัน โดยเฉพาะที่สมอง ปอด และขา
  • หญิงให้นมบุตรไม่ควรรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมในช่วงแรกคลอด หากต้องการใช้แนะนำให้ใช้หลังคลอดบุตรแล้วอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
  • สำหรับหญิงที่ไม่ได้ให้นมบุตร ควรเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดในวันที่ 21 หลังคลอดบุตร จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ หากเริ่มรับประทานยาหลังจากวันที่ 21 ของการคลอดบุตร ควรใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย
  • สำหรับผู้ที่แท้ง สามารถเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดได้ภายใน 5 วันหลังจากวันแท้ง หากเริ่มยาหลังจากแท้งเกิน 5 วัน ต้องใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยไปจนกระทั่งรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 21 เม็ดได้ครบ 7 วัน จึงจะหยุดการคุมกำเนิดวิธีอื่นได้

หากใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแบบ 21 เม็ดอย่างถูกวิธี และมีวินัย จะทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง

อย่างไรก็ตาม ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ จึงควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์

ดูแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
US National Library of Medicine National Institutes of Health, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/3800776, 15 December 1986.
MIMs Thailand, https://www.mims.com/thailand/drug/info/meliane-meliane%20ed/?type=brief, Access online: 27 February 2019.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)