คุณเคยได้ยินว่าฝาแฝดมักจะเกิดในรุ่นเว้นรุ่นหรือไม่ ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่มักพบบ่อยเกี่ยวกับการมีลูกแฝดและมีหลายครั้งที่ข้อความนี้ไม่ได้อธิบายหรือขยายความเพิ่มเติม บางคนอาจจะเข้าใจว่านี่หมายถึงผู้ที่เป็นฝาแฝดนั้นจะไม่มีลูกแฝด แต่ลูกของพวกเขาจะมีลูกแฝดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่ได้ยินก็มักจะไม่ได้ทำความเข้าใจกับประโยคนี้อย่างละเอียดเท่าใดนัก
ประโยคนี้มีพื้นฐานมาจากสมมติฐานที่ว่าการมีลูกแฝดนั้นมีผลมาจากพันธุกรรม
อย่างไรก็ตาม สมมติฐานดังกล่าวจะเป็นจริงหากว่ามียีนของความเป็นฝาแฝดเท่านั้น ดังนั้นการเกิดฝาแฝดก็มักจะสามารถเกิดได้ในครอบครัวที่มียีนนี้อย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่เป็นฝาแฝดก็จะต้องสามารถมีลูกเป็นแฝดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเกิดฝาแฝดในทุกรุ่นนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก แต่สำหรับครอบครัวที่มีฝาแฝดหลายคู่แล้วนั้น ทฤษฎีเรื่องการเกิดฝาแฝดข้ามรุ่นอาจจะสามารถอธิบายช่องว่างที่เกิดขึ้นได้มากกว่า และเช่นเดียวกับความเชื่ออื่น ๆ เกี่ยวกับการมีลูกแฝด ความเชื่อนี้ก็มีความจริงอยู่ในความเข้าใจผิดเช่นกัน ในความจริงแล้วฝาแฝดบางคนอาจเกิดจากพันธุกรรมในครอบครัวได้ มันไม่ได้เกิดจากยีนฝาแฝดที่มีสารพันธุกรรมซึ่งอาจทำให้ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีลูกแฝดได้มากขึ้น มีข้อเสนอแนะที่ว่าผู้หญิงกลุ่มนี้อาจมียีนที่ทำให้เกิดการตกไข่มากกว่า 1 ฟองในรอบเดือน ซึ่งหากมีไข่ที่ได้รับการผสมมากกว่า 1 ฟองแล้วนั้นก็อาจเกิดฝาแฝดเทียมได้
ฝาแฝดเกิดจากอะไร?
อย่างไรก็ตามการเกิดฝาแฝดแท้นั้นเชื่อว่าเป็นการเกิดแบบสุ่ม และไม่มีพันธุกรรมใด ๆ ที่สามารถระบุได้ว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเกิดแฝดแท้ ดังนั้นสำหรับครอบครัวที่อาจจะมีฝาแฝดเทียมหลายคู่นั้นอาจเกิดจากยีนที่ทำให้เกิดการตกไข่มากกว่าปกติ
อย่างไรก็ตามข้อความทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงการสันนิษฐานจนกว่าจะมีการตรวจทางพันธุกรรมที่แน่ชัด แต่หากสาเหตุของการเกิดฝาแฝดนั้นมาจากการตกไข่ที่มากกว่าปกติ ก็จะมีเพียงมารดาเท่านั้นที่ส่งผลต่อโอกาสในการมีลูกแฝด และไม่เกี่ยวกับทางบิดา
จึงเชื่อกันว่าการเกิดฝาแฝดนั้นเกิดในครอบครัวและส่งผ่านทางมารดา มารดาที่มีการตกไข่มากกว่าปกติอาจมีลูกแฝดได้ แต่ลูกแฝดของเธอจะมีลูกแฝดอีกหรือไม่ หรือว่าจะเกิดในอีกรุ่นหนึ่งซึ่งหมายความว่าหลานของเธอจะมีลูกแฝด ?
ความเข้าใจทางด้านพื้นฐานของพันธุศาสตร์นั้นอาจนำมาใช้อธิบายความเชื่อเกี่ยวกับการเกิดฝาแฝดข้ามรุ่นได้ โดยเริ่มจากการมียีนที่ทำให้ตกไข่มากขึ้นนั้นจะทำให้มีลูกแฝด แต่มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถตกไข่ได้ อย่างไรก็ตามผู้ชายก็มีโครโมโซมทั้ง X และ Y ซึ่งสามารถส่งผ่านไปยังทายาทของพวกเขาได้ ดังนั้นผู้ชายอาจจะเป็นพาหะของยีนนี้และส่งผ่านไปยังทายาทผู้หญิงของพวกเขาซึ่งจะเกิดการตกไข่ที่มากกว่าปกติและอาจมีลูกแฝด
ฝาแฝดเกิดข้ามรุ่นได้หรือไม่?
รุ่นที่ 1 (ฝาแฝด) : Adam และ Eve สมมติให้ Eve มียีนที่ทำให้เกิดการตกไข่ที่มากขึ้น พวกเขามีลูกทั้งหมด 6 คน และ 2 ใน 6 คนนี้เป็นฝาแฝดเทียมเพศชายที่ชื่อ Jesse และ James
รุ่นที่ 2 (ไม่มีฝาแฝด) : Jesse และ James โตขึ้น พวกเขามีลูกคนละ 3 คนแต่ไม่มีฝาแฝด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมียีนที่ทำให้เกิดการตกไข่มากขึ้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตกไข่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ส่งผลต่อความน่าจะเป็นในการที่ภรรยาของพวกเขาจะมีลูกฝาแฝด
รุ่นที่ 3 (ฝาแฝด) : ลูกของ Jesse และ James ซึ่งเป็นหลานของ Adam และ Eve ลูกสาวคนโตของ Jesse ชื่อ Madonna มีลูกแฝดผู้หญิงชื่อ Thelma และ Luise ลูกสาวคนสุดท้องของ James ชื่อ Beyonce มีลูกฝาแฝดชาย/หญิงชื่อ Luke และ Leia Jesse และ James อาจส่งผ่านยีนที่ทำให้เกิดการตกไข่มากขึ้นนี้ให้แก่ลูกสาวของพวกเขา
รุ่นที่ 4 (?) : คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ? ทายาทผู้หญิงอาจมีลูกเป็นฝาแฝดหรือไม่ก็ได้ และทายาทผู้ชายนั้นจะไม่มีผลต่อการที่ภรรยาของพวกเขาจะตั้งครรภ์แฝด แต่พวกเขาก็อาจจะมีลูกแฝดจากหลายสาเหตุ
จากตัวอย่างนี้คุณจะเห็นว่าบางครั้งดูเหมือนว่าฝาแฝดนั้นอาจจะเกิดข้ามรุ่น แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่กฎที่ตายตัว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสเกิดลูกแฝด และการที่มียีนที่ทำให้เกิดการตกไข่มากขึ้นนั้นก็เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อกระบวนการดังกล่าวเท่านั้น