คุณเคยเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือน้ำยาซักผ้าตัวใหม่ก่อนที่ผิวหนังจะมีอาการแดงและระคายเคืองหรือไม่ หากใช่ แสดงว่าคุณเคยมีอาการผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสมาก่อน ภาวะนี้เป็นภาวะที่เกิดจากการที่มีสารเคมีมาสัมผัสกับร่างกายและทำให้เกิดปฏิกิริยา อาการของโรคนี้ส่วนมากนั้นไม่รุนแรง แต่ก็ทำให้เกิดคันที่ทำให้ไม่สบายตัวได้
อาการที่พบ
อาการที่พบนั้นจะขึ้นกับสาเหตุและความไวของร่างกายคุณต่อสารดังกล่าว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้
อาการที่เกี่ยวข้องกับการเกิดผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ประกอบด้วย
- ผิวหนังแห้ง แตกเป็นขุย
- ลมพิษ
- ตุ่มน้ำที่แตก
- ผิวหนังแดง
- ผิวหนังที่ดูมีสีเข้มขึ้นหรือมีสัมผัสเหมือนกับหนัง
- ผิวหนังที่มีลักษณะไหม้
- คันอย่างรุนแรง
- ไวต่อแสง
- มีอาการบวมโดยเฉพาะที่ตา ใบหน้าหรือขาหนีบ
ผิวหนังอักเสบจากสารระคายเคือง
ผิวหนังอักเสบจากสารระคายเคืองนั้นอาจจะมีอาการแตกต่างออกไปเล็กน้อยเช่น
- มีตุ่มน้ำ
- ผิวหนังแตกแยกออกจากการที่ผิวหนังแห้ง
- บวม
- ผิวหนังรู้สึกตึงหรือแน่น
- มีแผล
- มีแผลเปิดที่ตกสะเก็ด
สาเหตุ
โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
- ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้
- ผิวหนังอักเสบจากสารระคายเคือง
- ผิวหนังอักเสบจากการโดนแสง
ผิวหนังอักเสบจากการโดนแสงนั้นพบได้น้อยที่สุด โดยเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้เวลาที่มีส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวหนังนั้นสัมผัสกับแสงแดดและทำให้เกิดการระคายเคือง
ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้
โรคนี้เกิดจากการที่ผิวหนังนั้นเกิดปฏิกิริยาแพ้ขึ้นหลังจากสัมผัสกับสารแปลกปลอม ทำให้ร่างกายหลั่งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบส่งผลให้มีอาการคันและระคายเคืองที่ผิวหนัง
สาเหตุที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดภาวะนี้เช่น
- เครื่องประดับที่ทำจากนิกเกิลหรือทอง
- ถุงมือยาง
- น้ำหอมหรือสารเคมีที่ผสมในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- พิษจากเถาไอวี่หรือต้นโอ๊ค
ผิวหนังอักเสบจากสารระคายเคือง
ชนิดนี้เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดของโรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส โดยเกิดเมื่อผิวหนังนั้นสัมผัสกับสารที่เป็นพิษ
ตัวอย่างสารที่เป็นพิษที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- กรดจากแบตเตอร์รี่
- สารฟอกขาว
- น้ำยาล้างท่อ
- Kerosene
- น้ำยาซักผ้า
- สเปรย์พริกไทย
นอกจากนั้นยังอาจจะเกิดจากการที่ผิวหนังสัมผัสกับสารที่ระคายเคืองน้อยเช่นสบู่หรือน้ำ แต่บ่อยเกินไป ผู้ที่มือนั้นต้องสัมผัสกับน้ำบ่อยๆ เช่นช่างทำผม บาร์เทนเดอร์และบุคลากรทางการแพทย์นั้นมักจะเกิดภาวะนี้ที่มือ
การรักษา
ส่วนมากอาการของผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสนั้นจะหายไปเองเมื่อไม่ได้มีการสัมผัสกับสารที่ทำให้เกิดอาการ ต่อไปนี้เป็นวิธีที่คุณสามารถทดลองได้ที่บ้าน
- หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณผิวหนังที่มีการระคายเคือง การเกานั้นจะทำให้ระคายเคืองมากขึ้นและอาจทำให้ผิวหนังติดเชื้อซึ่งต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
- ทำความสะอาดผิวหนังด้วยสบู่ที่อ่อนโยนและน้ำอุ่นเพื่อกำจัดสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
- หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหา
- ทาปิโตรเลียมเจลลี่เช่นวาสลีนลงบนบริเวณดังกล่าวเพื่อบรรเทาอาการ
- ลองใช้ผลิตภัณฑ์แก้คันเช่นโลชั่นคาลาไมน์ หรือ hydrocortisone cream
- หากจำเป็นอาจจะรับประทานยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันและลดปฏิกิริยาแพ้ที่เกิดขึ้น
ส่วนใหญ่แล้ว โรคนี้ไม่ใช่โรคที่ควรกังวล แต่ถ้าหากมีผื่นขึ้นที่ใกล้ดวงตาหรือปาก หรือเป็นผื่นบริเวณกว้าง หรือไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาที่บ้านอาจจะต้องไปพบแพทย์ แพทย์สามารถส่งจ่ายครีมสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์แรงขึ้นหากครีมที่ใช้อยู่นั้นไม่สามารถบรรเทาอาการได้
การวินิจฉัยโรค
ควรไปพบแพทย์หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจผิวหนังที่เป็น ตัวอย่างคำถามที่คุณอาจจะได้รับเช่น
- เมื่อไหร่ที่เริ่มสังเกตอาการ
- อะไรทำให้อาการนั้นดีขึ้นหรือแย่ลง
- คุณมีไปปีนเขาก่อนที่จะเกิดอาการหรือไม่
- มีการใช้ผลิตภัณฑ์ใดที่ผิวหนังเป็นประจำทุกวันหรือไม่
- มีสารเคมีใดที่คุณสัมผัสเป็นประจำหรือไม่
- คุณประกอบอาชีพอะไร?
แพทย์อาจจะส่งต่อให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้หรือแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถทำการทดสอบภูมิแพ้ต่อสารต่างๆ ซึ่งถ้าหากผิวหนังเกิดปฏิกิริยาขึ้นกับสารใด แสดงว่าสารนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นดังกล่าว
การป้องกัน
การหลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองนั้นเป็นวิธีที่สามารถป้องกันการเกิดผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสได้ ให้ลองใช้วิธีต่อไปนี้
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่ามีสารที่ก่อภูมิแพ้น้อยหรือไม่มีกลิ่น
- หลีกเลี่ยงการใส่ถุงมือยางหากมีอาการแพ้ยาง และเลือกถุงมือชนิดอื่นแทน
- ใส่เสื้อและกางเกงขายาวเวลาปีนเขา
- หากสังเกตว่ามีการระคายเคืองเกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ให้หยุดใช้ทันที หากคุณรู้ว่าผิวหนังของคุณนั้นไวต่อสารต่างๆ ให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นในพื้นที่และปริมาณเล็กน้อยก่อน เช่นที่แขน ปิดบริเวณดังกล่าวไม่ให้โดนน้ำหรือสบู่ และดูปฏิกิริยาหลังจากผ่านไปแล้ว 48 และ 96 ชั่วโมง หากมีผื่นแดงหรือการระคายเคืองเกิดขึ้น ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว