โรคจากการเสพกัญชา

อาการแสดงเมื่อเสพติดกัญชา ภาวะเสพติดกัญชา
เผยแพร่ครั้งแรก 3 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
โรคจากการเสพกัญชา

>อะไรคือโรคจากการเสพกัญชา?

โรคจากการเสพกัญชา คือนิยามที่ถูกกำหนดขึ้นใหม่ในเกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวช DSM 5 ใช้เรียกกลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับการเสพกัญชา เดิมในเกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวช DSM 4 TR ฉบับก่อนหน้า กลุ่มอาการที่สัมพันธ์กับการเสพกัญชาจะถูกนิยามเป็น 2 กลุ่มย่อย เรียกว่า กลุ่มอาการแสดงเมื่อเสพติดกัญชา และภาวะเสพติดกัญชา

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

แสดงว่าการใช้กัญชาอาจไม่ทำให้ “เสพติด”กัญชา?

การตัดเอานิยามภาวะเสพติดกัญชาออกไปจากเกณฑ์วินิจฉัยโรคฉบับใหม่นั้น อาจทำให้หลายคนนำไปตีความว่า เช่นนั้นแล้วการใช้กัญชาอาจไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การเสพติดกัญชาอย่างนั้นหรือ?

เพราะที่ผ่านมากัญชาก็ได้ชื่อว่าเป็นเพียงยาเสพติดชนิดอ่อนอยู่แล้ว

ก่อนเกณฑ์วินิจฉัยฉบับใหม่นี้จะถูกกำหนดขึ้น ได้มีการพิจารณาในหลายแง่มุมว่าควรนิยามโรคจากการเสพติดกัญชาว่าอย่างไรดี เนื่องจากผู้ใช้กัญชาหลายรายปฏิเสธอาการเสพติด แต่ในขณะที่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เกิดภาวะเสพติดกัญชาตามมา

นายแพทย์อลัน บัดนีย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องภาวะเสพติดกัญชา ได้ศึกษารวบรวมผลงานวิจัยเกี่ยวกับผลที่เกิดขึ้นหลังการหยุดเสพกัญชาแล้วพบว่า ผลทดลองในห้องปฏิบัติการได้บ่งชี้ว่าผู้ที่หยุดเสพกัญชาทั้งในกลุ่มผู้ป่วยที่นอนในโรงพยาบาลและผู้ป่วยนอก มีรูปแบบการเพิกถอนยาในลักษณะเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับผู้ที่หยุดเสพสารที่มีฤทธิ์เสพติดชัดเจน เช่น โคเคน หรือเฮโรอีน โดยสำหรับกัญชานั้น อาการถอนยาจะเกิดขึ้นหลังการหยุดใช้นานประมาณ 24 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่มีอาการรุนแรงสุดเมื่อเวลาผ่านไป 2-4 วัน และค่อยน้อยลงหลังจากผ่านไป 1-3 สัปดาห์

ดังนั้น แค่เพียงเพราะการนิยามชื่อเรียกขึ้นใหม่โดยไม่ใส่คำว่า “เสพติด” อย่างชัดเจนในคำจำกัดความนั้น ไม่ได้แปลว่ากัญชาไม่มีฤทธิ์เสพติด เนื่องจากผลงานวิจัยได้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ชัดเจน

ทำไมถึงยุบรวมกลุ่มอาการสองกลุ่มเป็นโรคเดียว?

ในขั้นตอนการปรับปรุงเกณฑ์การวินิจฉัยออกมาเป็น DSM 5 นั้น คณะกรรมการได้พิจารณาทบทวนการจัดแบ่งกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นจากสารเสพติดชนิดต่าง ๆ ว่าควรแบ่งเป็นกลุ่มอาการย่อยสองกลุ่มเช่นเดิมหรือยุบรวมเหลือเพียงกลุ่มเดียว โดยพิจารณาถึงกลุ่มอาการที่เกิดจากการเสพติดกัญชาเป็นพิเศษ  จากเดิมใน DSM 4 TR ในสองกลุ่มอาการย่อย “กลุ่มอาการแสดงเมื่อเสพติดกัญชา” ถือเป็นภาวะที่รุนแรงน้อยกว่า “กลุ่มอาการเสพติดกัญชา”  โดยหมายรวมถึงปัญหาทางกายภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามหลังการเสพกัญชา โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการเสพติด

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจสารพิษ สารเสพติดวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 194 บาท ลดสูงสุด 68% บาท

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ในทางตรงข้าม “กลุ่มอาการเสพติดกัญชา” เป็นภาวะที่แสดงถึงระดับความเสพติดของผู้ป่วย ที่ประเมินได้จากอาการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการที่แสดงถึงภาวะถอนยาและภาวะดื้อยา

คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญได้ใช้ขั้นตอนคิดวิเคราะห์หลายรูปแบบ จนได้ข้อสรุปว่าการตั้งเกณฑ์เพื่อพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้สารเสพติด เมื่อยุบลงเหลือเพียงกลุ่มอาการเดียวเรียกรวมเป็น “โรคจากเสพกัญชา” จะสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่าเมื่อจัดแบ่งออกเป็นกลุ่มอาการย่อยสองกลุ่มแบบเดิม โดย “โรคจากการเสพกัญชา” จะรวมเอาอาการต่าง ๆ จากเดิมที่จัดอยู่ทั้งใน “กลุ่มอาการแสดงเมื่อเสพติดกัญชา” และ “กลุ่มอาการเสพติดกัญชา” มาไว้ด้วยกันตั้งเป็นเกณฑ์การวินิจฉัยใหม่ 11 อาการแสดง  โดยความรุนแรงของโรคแบ่งเป็นระดับน้อย ปานกลาง และมาก  ระดับน้อยคือมีอาการแสดงเข้าเกณฑ์ 2-3 อาการ ระดับปานกลางเข้าเกณฑ์ 4-5 อาการ และระดับรุนแรงคือมากกว่า 6 อาการขึ้นไป  

ทั้งนี้ ระดับความรุนแรงในเกณฑ์แบ่งแบบใหม่นี้เป็นอาการแสดงทางกายภาพ ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ถึงความรุนแรงของระดับความเสพติด ซึ่งหากต้องการประเมินร่วม สามารถทำได้โดยใช้เกณฑ์อื่นๆเพิ่มเติม

อาการแสดงของโรคจากการเสพกัญชา

เกณฑ์การวินิจฉัย “โรคจากการเสพกัญชา” คือมีอาการแสดงเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 2 ข้อขึ้นไป ภายในระยะเวลา 12 เดือน

  • เสพกัญชาเกินขนาดที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก
  • มีปัญหาการควบคุมหรือลดปริมาณการใช้กัญชา
  • หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเสพกัญชา
  • มีความอยากเสพกัญชามากผิดปกติ
  • มีปัญหาการทำงาน การเรียน หรือปัญหาที่บ้านอันเป็นผลมาจากการเสพกัญชา
  • เสพกัญชาแม้จะตระหนักว่าการเสพกัญชาจะก่อให้เกิดปัญหาในการเข้าสังคม หรือปัญหาความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
  • ลดหรือเลิกทำกิจกรรมอื่นที่เคยทำเพื่อเสพกัญชา
  • เสพกัญชาแม้จะตระหนักดีว่าอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูง
  • เสพกัญชาแม้จะตระหนักดีว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
  • มีภาวะดื้อต่อการเสพกัญชาในขนาดเท่าเดิม
  • มีภาวะถอนยาเมื่อหยุดเสพกัญชา

อย่างไรก็ตามต้องย้ำอีกครั้งว่า เกณฑ์การวินิจฉัยโรคจากการเสพกัญชาเกณฑ์ใหม่นี้ ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงระดับความรุนแรงของการ “เสพติด” กัญชา  กล่าวคือแม้ว่าความรุนแรงของโรคจะจัดว่ารุนแรงมากตามเกณฑ์อาการแสดงข้างต้นนี้ ผู้ป่วยอาจจะเสพติดกัญชาในทางจิตเวชในระดับน้อย และในทำนองเดียวกันแม้ว่าจะจัดว่ามีความรุนแรงของโรคน้อย ผู้ป่วยอาจมีระดับการเสพติดกัญชาในทางจิตเวชมากก็เป็นได้ ทั้งนี้เพราะการประเมินระดับความรุนแรงของการเสพติดยาในทางจิตเวชนั้น มุ่งเน้นไปที่การประเมินภาวะดื้อต่อยาและภาวะถอนยาเป็นหลักเท่านั้น เนื่องจากเป็นสองอาการหลักที่เป็นลักษณะจำเพาะเจาะจงต่อภาวะเสพติดยา


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Jason Patel; Raman Marwaha, Cannabis Use Disorder (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK538131/)
Elizabeth Hartney, Cannabis Use Disorder for Problematic Marijuana Users (https://www.verywellmind.com/cannabis-use-disorder-22295)
Kristen Fischer, After Legalization, Marijuana Addiction Is on the Rise (https://www.healthline.com/health-news/cannabis-use-disorder-is-real-heres-who-is-being-affected) 13 November 2019

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป