สาวๆ หลายคนนั้นเลือกใช้วิธีทานยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ เพราะถือเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก และยังมีประสิทธิภาพดีพอสมควร แต่บางครั้งสาวๆ เราก็เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน ท้องร่วง ท้องเสีย หรืออาเจียน หลังทานยาคุมเข้าไปซะนี่! แล้วแบบนี้ยาคุมกำเนิดที่เราอุตส่าห์ทานเข้าไปจะยังได้ผลดีอยู่หรือเปล่านะ?
ข้อควรรู้เกี่ยวกับยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิด คือยาเม็ดที่มีฮอร์โมนเพศหญิงบรรจุไว้ การทานยาคุมกำเนิดจะทำให้ระบบสืบพันธุ์ของสาวๆ มีการเปลี่ยนแปลง และอยู่ในสภาพไม่พร้อมต่อการตั้งครรภ์ ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากขึ้น ยาคุมกำเนิดที่ฮิตในหมู่สาวๆ นั้นมี 2 ประเภท คือ แบบฮอร์โมนรวม ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ และแบบฮอร์โมนตัวเดียว ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเท่านั้น ยาคุมกำเนิดสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา โดยยา 1 แผง จะมี 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด
สำหรับการใช้ยาคุมกำเนิดนั้น สาวๆ จะต้องทานยาทุกวันๆ ละ 1 เม็ด เรียงตามลูกศรที่กำกับบนแผง โดยยาแผงที่มี 21 เม็ด เมื่อทานหมดแผงจะเว้น 7 วัน (ช่วงมีประจำเดือน) จากนั้นจึงเริ่มทานแผงต่อไป ส่วนยาแผงที่มี 28 เม็ด ให้สาวๆ ทานทุกวันและขึ้นแผงใหม่ได้ทันทีเมื่อยาหมดโดยไม่ต้องเว้นช่วง ยาคุมกำเนิดสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีพอสมควร ในเงื่อนไขที่ว่า สาวๆ จะต้องทานยาให้ครบและต่อเนื่องโดยไม่มีขาด หากลืมทานยาแม้แต่วันเดียวโอกาสตั้งครรภ์ก็จะสูงขึ้นได้
ท้องเสียมีผลต่อประสิทธิภาพยาคุมไหม?
โดยปกติยาคุมกำเนิดที่เราทานเข้าไปจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายภายใน 2 ชั่วโมง ดังนั้น หากเกิดอาการท้องเสีย หรืออาเจียน ภายใน 2 ชั่วโมงหลังทานยาคุม ยาจะถูกขับออกจากร่างกายด้วย ทำให้เราดูดซึมฮอร์โมนในยาคุมได้น้อยลง หรืออาจดูดซึมไม่ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพในการป้องกันย่อมลดลง โดยเฉพาะหากสาวๆ เกิดท้องเสียติดต่อกันมากกว่า 24 ชั่วโมงด้วยแล้ว ก็จะถือว่าวันนั้นเป็นวันที่ไม่ได้ทานยาไปเลย
หากท้องเสียขึ้นมา เราจะทำอย่างไร?
หากยาคุมกำเนิดที่เราทานเข้าไปอย่างดิบดี ดันถูกขับออกมาด้วยอาการท้องเสียและอาเจียน วิธีแก้ไขที่เราจะทำได้คือ...
- ควรหายาคุมสำรองแบบเดียวกันเตรียมไว้ 1 แผง เมื่ออาการท้องเสียผ่านพ้นไปแล้ว จึงทานยาคุมเม็ดที่ตรงกันกับที่เพิ่งทานไปเพื่อทดแทน
- หากมีอาการท้องเสียครบ 24 ชั่วโมง เมื่ออาการผ่านไปแล้ว เราสามารถทานยาคุมเม็ดที่ขาดไปได้ และทานเม็ดถัดไปในวันต่อไปได้ตามปกติ โดยอาจไม่ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆ เพิ่มเติม
- หากมีอาการท้องเสียเกินกว่า 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน เมื่ออาการผ่านไป ให้ทานยาคุม 2 เม็ด (คือเม็ดที่ขาดไป และเม็ดที่ต้องทานต่อเนื่องตามปกติ) ทันที และทานยาคุมเม็ดถัดไปในแผงจนหมด แต่หากสาวๆ จะมีเพศสัมพันธ์ภายใน 7 วัน หลังจากวันที่ขาดยาคุมนั้น ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ด้วย
เนื่องจากยาคุมกำเนิดเองไม่ใช่วิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่ได้ผล 100% อยู่แล้ว ยิ่งเกิดการท้องเสียหรืออาเจียน ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงไปอีก ดังนั้น สาวๆ ที่ยังไม่พร้อมเป็นคุณแม่ควรใส่ใจในจุดนี้ และแก้ปัญหาตามคำแนะนำข้างต้นอย่างครบถ้วน จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ได้