ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุก็คือ การพลัดตกหกล้ม ซึ่งมีที่มาจากความสามารถในการทรงตัวลดลง ปัญหานี้ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ สูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน และหากไม่ได้รับการฟื้นฟู อาจกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินได้อีก กระทั่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
ปัญหาการทรงตัวในผู้สูงอายุเกิดจากอะไร?
การทรงตัว (Balance) ที่มีประสิทธิภาพ เกิดจากการทำงานร่วมกันอย่างสมดุลของ 3 ระบบใหญ่ๆ ได้แก่ การมองเห็น (Visual) การรับรู้ตำแหน่งของข้อต่อ (Proprioception) และการทำงานของหูชั้นใน (Vestibular system) ซึ่งทั้งสามระบบนี้ทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อน
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบดังกล่าวก็เสื่อมถอย การมองเห็นลดลง ผิวของข้อต่อเสื่อมไปตามอายุ ประสิทธิภาพการทำงานของหูชั้นในลดลง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโครงร่าง (Skeleton muscle) ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการตอบสนองต่อคำสั่งของสมอง เพื่อปรับสมดุลของร่างกายขณะที่เกิดความไม่สมดุล ก็เสื่อมลงเช่นกัน ส่งผลให้ความสามารถในการทรงท่า (Posture) ลดลงด้วย นอกจากนี้สมองของผู้สูงอายุ (Aging brain) ยังมีแนวแนวที่จะใช้เวลาในการประมวลผลช้าลงเมื่อเทียบกับวัยอื่นๆ ด้วย
ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความสามารถในการทรงตัวที่ลดลงของผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?
ถึงแม้การทรงตัวไม่มั่นคงจะไม่ใช่อาการร้ายแรง แต่มักจะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่ร้ายแรงตามมา (Secondary cause) เช่น หากทรงตัวไม่ดีแล้วหกล้ม ศีรษะอาจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือในผู้สูงอายุมีภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เมื่อหกล้มก็จะส่งเสริมให้ผลรุนแรงขึ้นอีก
มีรายงานว่า ประมาณ 20% ของผู้สูงอายุที่หกล้มไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก บางส่วนต้องนั่งรถเข็น บางส่วนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ผู้ป่วยเหล่านั้นมักจะเสียชีวิตในระยะเวลาต่อไปอีกไม่นาน ด้วยอาการแทรกซ้อนจากการเคลื่อนไหวที่น้อยลง เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือดจาดแผลกดทับ ปอดติดเชื้อจากการมีเสมหะคั่งข้างในปอดจำนวนมาก เป็นต้น
รู้ได้อย่างไรว่าผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องการทรงตัว?
โดยทั่วไปแล้ว ตัวผู้สูงอายุเองมักจะรู้สึกว่ามีอาการขาอ่อนแรง เดินลำบาก ทรงตัวลำบาก ไม่มั่นใจเมื่อต้องเดินในบริเวณที่ไม่คุ้นเคย และพยายามเกาะหรือดึงเครื่องเรือนต่างๆ ขณะเดิน นอกจากนี้ญาติก็มักจะสังเกตเห็นว่าผู้สูงอายุไม่สามารถยืนตรงได้นาน บางรายมีอาการเดินเซ
เมื่อความมั่นใจในการทรงตัวลดลง คนใกล้ชิดมักจะสังเกตเห็นว่าผู้สูงอายุเคลื่อนที่น้อยลง ไม่ค่อยทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง เมื่อสังเกตเห็นอาการดังกล่าวควรพาผู้สูงอายุไปพบนักกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟู และชะลอการสูญเสียการทรงตัวไม่ให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองให้มากที่สุด และลดความเสี่ยงต่อภาวะติดเตียงและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงโรคทางจิตใจด้วย
การกายภาพบำบัดจะช่วยแก้ปัญหาการทรงตัวของผู้สูงอายุได้อย่างไร?
นักกายภาพบำบัดจะทำการประเมินความสามารถในการทรงตัวของผู้สูงอายุแต่ละราย และหาทางแก้ไขที่เหมาะสมให้ ตามความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มและกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุแต่ละราย เช่น ออกแบบโปรแกรมการฝึกการทรงตัวให้ เลือกอุปกรณ์ช่วยเหลือการเดินแบบต่างๆ ให้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการทรงตัวเพียงเล็กน้อยอาจจะต้องใช้ไม้เท้า (Cane) ช่วยพยุงขณะเดินนอกบ้าน ผู้สูงอายุที่มีปัญหาการทรงตัวมาก แต่แขนยังมีกำลังดีและไม่มีอาการหลงลืม อาจจะสามารถใช้กรอบฝึกเดิน (Walker) ช่วยพยุงเพื่อให้เคลื่อนที่ไปทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้ด้วยตนเอง หรือในผู้สูงอายุที่ที่มีปัญหาการทรงตัวมาก มีความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มมาก อาจจะต้องแนะนำให้หาผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นต้น
แนวทางหลักทางกายภาพบำบัดในการจัดการกับปัญหาการทรงตัวในผู้สูงอายุสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ข้อหลักๆ ดังนี้
- ป้องกันการพลัดตกหกล้มด้วยการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
นอกจากการเลือกอุปกรณ์ช่วยเดินที่เหมาะกับความสามารถของผู้สูงอายุแต่ละรายแล้ว การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวกก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น การติดตั้งราวจับตามทางเดิน การเพิ่มแสงสว่างให้ผู้สูงอายุมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น การจัดเครื่องเรือนไม่ให้ขวางทางเดิน บริเวณที่มีความเสี่ยงสูงที่ผู้สูงอายุจะหกล้มก็คือห้องน้ำ ควรเปลี่ยนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบชักโครกเพราะใช้แรงลุกขึ้นยืนน้อยกว่าแบบนั่งยอง ควรติดตั้งราวจับเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุลุกขึ้นยืนได้อย่างสะดวก พื้นห้องน้ำควรจะแห้งและมีแผ่นกันลื่น นอกจากนี้เวลาพาผู้สูงอายุอออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรจะดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณที่พื้นไม่ราบเรียบ
- ฟื้นฟูความสามารถในการทรงตัว และชะลอความเสื่อมของการทรงตัวในผู้สูงอายุด้วยการออกกำลังกาย
นักกายภาพบำบัดจะออกแบบการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของการมองเห็น (Visual) การรับรู้ตำแหน่งของข้อต่อ (Proprioception) และการทำงานของหูชั้นใน (Vestibular system) หรือหากในผู้สูงอายุที่ระบบใดระบบหนึ่งมีปัญหามากๆ นักกายภาพบำบัดก็จะออกแบบการออกกำลังกายเพื่อสนับสนุนให้ระบบการทรงตัวที่เหลือมาทำหน้าที่ทดแทนระบบที่มีปัญหาได้ เช่น ในผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการมองเห็นมากๆ การกระตุ้นการทำงานของหูชั้นใน และการรับรู้ข้อต่อผ่านการออกกำลังกาย เช่น การยืนบนเบาะนุ่มๆ การฝึกยืนขาเดียว หรือการฝึกยืนหลับตา จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทรงตัวในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ การการฝึกเดินในสถานที่เสมือนจริง เช่น เดินข้ามสิ่งกีดขวาง ฝึกเดินขึ้น-ลงบันได ก็จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความมั่นใจ และทรงตัวในสถานการณ์จริงได้อย่างมั่นคงด้วย
ท่าออกกำลังกายเพื่อความสามารถในการทรงตัวที่ผู้สุงอายุสามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน
การออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาการทรงตัวในผู้สูงอายุนั้น ประกอบด้วยการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ และการออกกำลังการเพื่อกระตุ้นการทรงตัว ดังนี้
- การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
- กล้ามเนื้อน่อง ให้ยืนเกาะวัสดุที่มันคง เช่น ขอบโต๊ะ หายใจออก เขย่งข้อเท้าขึ้นจนสุด หายใจเข้า กลับมายืนฝ่าเท้าแนบพื้น สามารถเพิ่มความยากด้วยการรัดถุงทรายที่ข้อมือทั้งสองข้าง
- กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า นั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังตรง หายใจออก เหยียดเข่าข้างที่ต้องการออกกำลังกายให้สุด หายใจเข้า วางเท้ากลับเข้าที่เดิม สามารถเพิ่มความยากด้วยการผูกถุงทรายที่ข้อเท้าข้างที่ต้องการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงที่แนะนำไว้เบื้องต้นทั้งสองข้อ สามารถทำได้ 10-12 ครั้ง ต่อเซ็ต ทำ 1-3 เซ็ตต่อครั้ง วันละ 1-2 ครั้ง
- ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อขา ให้เริ่มจากยืนเกาะวัสดุที่มั่นคงย่อเท่าทั้งสองข้างลงเท่าที่ไหว นับ 1-10 ทำซ้ำ 1-3 ครั้ง วันละ 1-2 รอบ สามารถเพิ่มความยากด้วยการทำค้างไว้ เป็นนับ 1-30 เท่าที่ไหว หรืออาจจะพยายามย่อเข่าลงให้ได้ประมาณ 90 องศา จนต้นขาขนานกับพื้นเหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้
- ฝึกการทรงตัวอย่างง่าย การฝึกนี้มีประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุทรงตัวได้ดีขึ้น ในที่นี้จะขอแนะนำเฉพาะวิธีที่ปลอดภัยและทำได้เองที่บ้าน ดังนี้
- ยืนจับวัสดุที่มั่นคง ฝ่าเท้าทั้งสองข้างชิดกัน นับ 1-30 เท่าที่ไหว เพิ่มความยากโดยค่อยๆ ปล่อยมือ หรือลดการเกาะลงเหลือเพียงมือเดียว หรือเพียงปลายนิ้ว เมื่อยืนปล่อยมือได้ดีอาจจะเพิ่มความยากขึ้นอีกด้วยการหาเบาะนุ่มๆ มารองใต้ฝ่าเท้า ก็จะยิ่งทำให้ทรงตัวได้ยากขึ้น
- ทำซ้ำข้อ a. แต่เปลี่ยนเป็นยืนส้นเท้าต่อปลายเท้า วิธีการเพิ่มความยากใช้วิธีเดียวกัน
- เดินโดยใช้ส้นเท้าต่อกับปลายเท้าเป็นเส้นตรงเท่าที่ไหว ท่านี้มีความเสี่ยงที่จะหกล้มสูงมาก ควรมีผู้ดูแลคอยเดินระวังอย่างใกล้ชิด
แม้การฝึกทรงตัวจะดีต่อสุขภาพ แต่เพื่อความปลอดภัย ควรมีญาติหรือผู้ดูแลเฝ้าอยู่ด้วยเสมอ เพื่อป้องกันการหกล้ม นอกจากนี้ในผู้สูงอายุที่มีอาการปวดเข่า หรือเวียนศีรษะบ่อยๆ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น