August 26, 2019 22:02
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
สิวเกิดจากต่อมไขมันอักเสบ ซึ่งทำให้เราสามารถพบในที่ต่อมไขมันมากได้ เช่น หน้า คอ หน้าอก หลังส่วนบน เป็นต้น โดยพบได้หลายระยะ เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวช้าง
ปัจจัยที่ทำให้สิวเกิดมากขึ้น มีหลายอย่างเช่น
-การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ผู้ชายช่วงวัยรุ่น หรือผู้หญิง ช่วงก่อนมีประจำเดือน
-อาหารมัน ช็อคโกแลต
-เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ระคายเคืองต่อผิว
เบื้องต้นแนะนำหลีกเลี่ยง ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวมากขึ้น หลีกเลี่ยงสัมผัสบริเวณใบหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า หรือครีมที่ระคายเคืองผิวน้อย ไม่ควรแกะ บีบ สิวเอง เพราะจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อซ้ำซ้อน และเกิดรอยแผลเป็นได้
ถ้าเป็นปริมาณมาก หรือมีแผลเป็นมาก แนะนำพบแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะครับ ยาที่รักษามีทั้งยารับประทาน ยาทา และถ้ามีแผลเป็นมากๆอาจมีวิธีลบรอย เช่น เลเซอร์ เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
หากคนไข้ยังอยู้ในวัยเจริญพันธฺอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวเลยได้ลำบาก เนื่องจากสิว ส่วนหนึ่ง เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โทรเพศครับ
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้แก่
1.สิ่งสกปรกอุดตัน เช่น เครื่องสำอาง ฝุ่นละออง
2.การติดเชื้อราและแบคทีเรีย โดยเฉพาะ P acne
3.ฮอร์โมนเพศ
4.การแพ้สารเคมีต่างๆ
วิธีการรักษาเบื่องต้นที่แนะนำเพื่อรักษาและป้องกันสิวคือ
1.ต้องรักษาความสะอาดครับ
ล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง รวมถึงสิ่งที่ต้องสำผัสใบหน้าของเรา เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม ถ้าสะอาดจะลดการเกิดสิวครับ
2.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสำหรับผิวแพ้ง่ายครับ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ควรมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราครับ
นอกจากเครื่องสำอางที่ต้องเลือกแล้ว แปรง พัฟต่างๆที่ใช้ควรทำความสะอาดบ่อยๆ ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวค่ะ นอกจากนี้ อาจแนะนำ ผลิตภัณฑ์ สำหรับรักษาสิวด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ผสม AHA หรือ salicylic acid ครับ
หากเป็นสิวหัวหนอง / สิวอักเสบ อาจใช้เป็นยาทาละลายหัวสิว เช่น benzoyl peroxide clindamycin gel (ยาฆ่าเชื้อ) เนื่องจาก สิวหัวหนองมักเกิดจากแบคทีเรีย ชื่อ P.acne ครับ สามารถซื้อได้ที่ร้านขายยา
หากสิวเห่อมากๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์ การใช้ยาฆ่าเชื้อแบบกิน หรือ retinoic acid หรือ อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอนุพันธ์ของวิตามินเอ เช่น adapalene ครับ และการใช้ยาสเตียรอยด์ลดการอักเสบช่วงสั้นๆ อาจมีประโยชน์นะครับ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อยาชนิดกินเองครับ
3.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันบนใบหน้านะครับ
4.หากมีสิว ไม่ควรแกะเกา จะทำให้เป็นแผลและหลุมและรอยดำ
5.ออกกำลังกายเป็นประจำ
6.ทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอครับ หน้าจะได้ไม่เหี่ยว
7.ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ตามธรรมชาติ ถ้าเราทานเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมหน้าใสใดๆ เพราะในผักผลไม้ก็มีมากอยู่แล้ว แถมไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วยครับ
8.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
คนไข้ลองปฏิบัติตามดูนะครับ น่าจะช่วยได้พอสมควรครับ
**สำหรับรอยสิว แนะนำดังนี้ครับ
1.หมั่นทาครีมและโลชันเสมอ อย่าปล่อยให้ผิวแห้ง
2.ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้รอยดำดำนิ่งขึ้น
3.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป หรือขัดถูบริเวณที่อักเสบ มากจนเกินไป - เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นอาการอักเสบ ครับ
4.ครีมบำรุง เช่น วิตามิน ซี / อาร์บูติน / กรดโคจิก (Vitamin C, Arbutin, Kojic Acid) บางท่านแนะนำว่าทีประโยชน์ครับ
5.การเลเซอร์
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอคะ หนูเป็นสิวที่หลังมาจะ6ปีเเล้วค่ะ ลองซักผ้าให้สะอาดขึ้น ซักผ้าปูที่นอนบ่อยๆ ดูเเลความสะอาดตัวเองก็ไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีสิวขึ้นเรื่อยๆอยู่เลยค่ะ บางทีก็ขึ้นตามคอตามร่องหน้าอก ไม่รู้จะรักษายังไงดีค่ะ ขออนุญาตแนบรูปด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)