คือหนูมีเพศสัมพันตอนวันที่สด ไม่ถุง16/11/62เเล้ววันที่5ตอนเย้นค่อยมากินยาคุมฉุกเฉินอ่าค่ะเเล้วต่อไป4วันก้มีเลือดออกมาประมานเกือบ1อาทิดยังไม่หายดีเเล้วหนุมีเพศสัมพันแบบหลั่งในอีกต้องกินยาคุมฉุกเฉินใหม่อีกไหมค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันอีกหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินใหม่อีกครั้งครับ โดยหมอแนะนำให้รับประทานให้เร็วที่สุดภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85%

และหลังจากนี้ก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ไม่ว่าเลือดที่ออกมานั้นจะเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือว่าเป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เมื่อผู้ถามมีเพศสัมพันธ์อีกโดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ (ถ้ายังอยู่ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7") ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่าที่ควรจะเป็น หากเทียบกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานอย่างการใช้ถุงยางอนามัยนะคะ

ซึ่งหากต้องการลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทันทีในตอนนี้ หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ ถ้าใช้เร็วและครบขนาดอาจช่วยลดความเสี่ยงให้เป็น 15% ได้

จากนั้น ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่นะคะ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือเปล่า เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ควรให้แฟนใช้ถุงยางทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้อง และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินทุกยี่ห้อที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ด หรือแผงละ 1 เม็ด ก็เป็นตัวยาฮอร์โมนชนิดเดียวกัน และมีปริมาณฮอร์โมนรวมทั้งแผงเท่ากันค่ะ ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจึงไม่แตกต่างกัน สามารถใช้ยี่ห้อใดก็ได้ที่ผู้ถามหาซื้อได้สะดวก เนื่องจากจะต้องรีบรับประทานโดยเร็วนะคะ

ยาคุมฉุกเฉินทุกยี่ห้อมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้เท่ากันครับ ดังนั้นจะเลือกรับประทานยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อใดก็ได้ครับ

ในกรณีนี้หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วหมอยังไม่แนะนำให้เริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนต่อในทันทีครับ เพราะก่อนที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นก็ควรต้องมั่นใจก่อนว่าไม่มีการตั้งครรภ์

หลังจากนี้ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกหมอก็แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อน และถ้าหากประจำเดือนมาแล้วและยังมีความต้องการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนอยู่ หมอก็แนะนำว่าควรเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาครับ

และหลังจากเริ่มรับประทานยาคุมแบบรายเดือนแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับปรไปตลอดชีวิตครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่คาดว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถหยุดรับประทานยาคุมได้ทันทีโดยไม่ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ครับ

ยาคุมรายเดือนไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ ในกรณีของผู้ถาม ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ไม่ให้เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ ส่วนยาคุมรายเดือน ยังไม่แนะนำให้ใช้ในตอนนี้ค่ะ

จากนั้น ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มี หรือไม่มั่นใจ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แนะนำไปข้างต้นได้ค่ะ

แต่ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว หากต้องการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถามนะคะ

หรือถ้าไม่ต้องการคุมกำเนิดเอง ก็ให้แฟนใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ก็ได้ เพราะถ้าใช้ถูกวิธี และตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

ยาคุมรายเดือนไม่มีผลป้องกันฉุกเฉินค่ะ การใช้ร่วมกับยาคุมฉุกเฉินเพื่อหวังผลป้องกันย้อนหลังนั้นไม่มีประโยชน์ และทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยามากขึ้นโดยไม่จำเป็นนะคะ

ถ้าผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำอีก ก็ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วอีกค่ะ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก การนำมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางอนามัย จึงมีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ

ดังนั้น ในระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา ผู้ถามควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรให้แฟนใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งค่ะ

แต่เมื่อประจำเดือนมาแล้ว (ต้องเป็นประจำเดือนจริง ๆ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนะคะ) หากผู้ถามต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีปกติ แต่ไม่ต้องการรับประทานยาคุมรายเดือน ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถามค่ะ

ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลาก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% จึงไม่ควรนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกตินั่นเองนะคะ

ในกรณีของผู้ถาม เมื่อจำเป็นต้องใช้ (แม้จะเป็นการใช้อย่างไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้มีเหตุฉุกเฉิน แต่เป็นเพราะเลือกที่จะไม่ป้องกันด้วยวิธีมาตรฐานเอง) ก็ควรรับประทานให้ครบขนาดเพื่อหวังว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีได้

การใช้ยาคุมรายเดือนในตอนนี้ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวค่ะ และหากมีการตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อไป แต่การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เเหมือนเดิม จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ในตอนนี้

แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ ระหว่างที่รอก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางทุกครั้งหากต้องมีเพศสัมพันธ์ค่ะ และถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมตามที่แนะนำไปข้างต้นได้

และหากประจำเดือนมาแล้ว ถ้าผู้ถามต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีปกติ เพื่อให้มีผลป้องกันสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อ ๆ ไป ก็ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมนะคะ