สวัสดีค่ะ ขอสอบถามคุณหมอว่ามีอาการตกขาวมานานกว่า 5 ปี มีลักษณะสีเหลืองออกเขียว มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่มีอาการแสบช่องคลอด ไม่ได้ทานยาคุม ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ รอบเดือนมาปกติ ไม่มีอาการเลือดออกระหว่างรอบเดือน ไม่มีอาการปวดท้องน้อย ทานยา Methronidazole เพื่อรักษาอาการดังกล่าวมาแล้ว 3 ครั้ง โดยทั้ง 3 ครั้งอาการไม่ดีขึ้น อยากทราบว่าจากอาการดังกล่าวดิฉันมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกไหมคะ และมีแนวทางในการรักษาโรคดังกล่าวได้อย่างไรบ้างคะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวผิดปกติ มีกลิ่นผิดปกติ และได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ Metronidazole ไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หมอก็แนะนำว่าควรได้รับการตรวจภายในเพื่อเก็บตัวอย่างตกขาวไปตรวจดูก่อนว่ามีสาเหตุมาจากเชื้อก่อโรคชนิดใด และเชื้อมีการดื้อยาหรือไม่ เพื่อที่จะได้เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ครับ

ส่วนเรื่องความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกในกรณีนี้ยังไม่ชัดเจนครับ แต่หมอก็แนะนำว่าควรมีการตรวจคัดกรองโดยการเก็บตัวอย่างเซลล์ที่บริเวณปากมดลูกไปตรวจ (PAP smear) เป็นประจำทุกปีครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการโดยละเอียดอีกครั้งก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

1.เรื่องตกขาว อาการคนไข้ตกขาวมีสีเหลืองเขียว อาจจะเป็นการติดเชื้อโปรโตซัว พวกTrichomoniasis ได้ครับ
การรักษาเรื่องตกขาวคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร
ถ้าเป็นเชื้อราใช้ยาสอดพวกClotrimazoleครับ
ถ้าสงสัยเป็นTrichomoniasis ปกติใช้ยาเช่น Metronidazoleครับ
การที่คนไข้อาการไม่ดีขึ้นอาจเกิดจาก กินยาไม่ครบ เหน็บยาไม่ครบ กินยาไม่ตรงเชื้อ ใส่กางเกงรัดเเน่นอับชื้น มีพฤติกรรมสวนล้างช่องคลอดตลอดครับ ให้งดพฤติกรรมเหล่านี้ครับ

2.อาการตกขาวไม่ได้บอกว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ครับ ระยะเเรก มะเร็งปากมดลูกนั้นไม่ได้มีอาการอะไรครับ
ปกติถ้าอายุน้อยความเสี่ยงต่ำมากครับ เเต่ถ้ากังวลเเนะนำปรึกษาสูตินรีเเพทย์ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ตรวจปีละครั้งครับ เเละมะเร็งชนิดนี้ ลุกลามช้าครับ หมายความว่าต่อให้เป็นจริงๆใช้เวลาเป็นปีปีกว่าจะลุกลาม ถ้าตรวจทุกปีไม่ต้องกังวลครับ
(ทำในผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หรือ 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ขึ้นกับว่าเวลาใดถึงก่อน หลังจากนั้นทำการตรวจทุก 1-2 ปีครับ)