November 13, 2019 20:55
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่มีข้อจำกัดว่าห้ามรับประทานเกินกร่แผงครับ เพียงแต่ว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 75-85% เท่านั้น การรับประทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆจึงไม่ใช่การป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปแล้วหมอก็แนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานอีกครั้งก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยให้รับประทานให้เร็วที่สุดภายในเวลาไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ส่วนหลังจากนี้หมอแนะนำว่าควรงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนจนกว่าประจำเดือนจะใา และถ้าหากต้องการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนก็ให้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะทำให้ยาคุมเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาคุมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากต้องการผลคุมกำเนิดฉุกเฉินในกรณีนี้ก็จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินค่ะ โดยรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
แต่เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติหลายเท่า การนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติก็เสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็น
ดังนั้น แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน และงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมหรือไม่ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาหรือเปล่านะคะ เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร
ถ้ามีประจำเดือนมาแล้ว และคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องการป้องกันด้วยถุงยาง ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ถามนะคะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
คัคนานต์
เทียนไชย
(พญ.)
อายุรกรรม
สวัสดีค่ะ
ปกติยาคุมฉุกเฉิน รับประทาน ครั้งละ2เม็ดค่ะ คือ ทานหลังจากทีเพศสัมพันธ์ทันที ภายใน72ชั่วโมง และอีกเม็ดหลังจากทาน เม็ดแระ 12ชั่วโมง
และไม่ควรทานมากกว่า2ครั้ง ใน1เดือนค่ะ เนื่องจากมีผลข้างเคียงค่อนข้างมากคือ มดลูกหนาตัวผิดปกติ มีเลือดออกผิดปกติทางบ่องคลอด
ยาคุมฉุกเฉินควรทานเฉพาะฉุกเฉินจริงๆ แนะนำควรคุมกำเนิดโดยอื่นๆ เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การรับประทานยาคุมแบบรายเดือน การฉีดหรือฝังยาคุมกำเนิดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ
ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทย มี 2 รูปแบบค่ะ
1. ชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ด ซึ่งแต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยา "ลีโวนอร์เจสเทรล" เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม ได้แก่ ยี่ห้อโพสตินอร์, มาดอนน่า, แมรี่พิงค์, นอร์แพ็ก และเลดี้นอร์
2. ชนิดที่มีแผงละ 1 เม็ด ซึ่งในเม็ดยาจะประกอบด้วยตัวยา "ลีโวนอร์เจสเทรล" 1.5 มิลลิกรัม ได้แก่ ยี่ห้อเมเปิ้ลฟอร์ท และแทนซีวัน
จะเห็นได้ว่า ทุกยี่ห้อมีตัวยาฮอร์โมนชนิดเดียวกัน และมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันนะคะ
ส่วนวิธีรับประทาน จะมี 2 วิธีค่ะ
1. วิธีดั้งเดิม คือรับประทานครั้งละ 0.75 มิลลิกรัม รวม 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง ซึ่งก็คือการใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกัน 12 ชั่วโมงนั่นเองนะคะ
2. วิธีใหม่ คือรับประทานครั้งละ 1.5 มิลลิกรัม ครั้งเดียว นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว
ไม่ว่าจะใช้วิธีดั้งเดิมหรือวิธีใหม่ ให้รับประทานเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (แต่การใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกจะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ที่เวลา 72 - 120 ชั่วโมง)
เคยมีการศึกษาที่ชี้ว่าทั้ง 2 วิธีมีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่แตกต่างกันค่ะ แต่การศึกษาใหม่ ๆ ชี้ว่า การรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียว มีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพดีกว่า อีกทั้ง ไม่ต้องกังวลว่าผู้ใช้จะลืมและรับประทานไม่ครบขนาดอีกด้วยนะคะ
ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อใด ก็สามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้เลยค่ะ
..
..
..
ส่วนผลข้างเคียงจากยา ได้แก่ คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, เจ็บคัดตึงเต้านม, ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าผู้ใช้จะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์
แต่ยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดที่ชี้ชัดได้ว่ายาคุมฉุกเฉินทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ค่ะ แม้ว่าจะมีการใช้เกินขนาดที่แนะนำ หรือรับประทานซ้ำหลายรอบในเดือนเดียวกันก็ตาม
ซึ่งคำแนะนำที่ว่า "ไม่ควรใช้เกินเดือนละ 2 แผง" เคยมีการระบุไว้ในฉลากและข้างกล่องยาในอดีต เนื่องจากมีความกังวลว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
แต่การศึกษาต่อมาชี้ว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกอย่างที่เคยกังวลค่ะ จึงมีการนำคำเตือนดังกล่าวออกจากฉลากยาและข้างกล่องยาไปนานแล้วนะคะ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความปลอดภัย แต่ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติหลายเท่าค่ะ จึงไม่แนะนำให้นำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ไม่ว่าจะมีการใช้บ่อยหรือไม่บ่อยก็ตามนะคะ เพราะเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็น
ส่วนในกรณีที่จำเป็น เช่น ถูกข่มขืน, ถุงยางฉีกขาด หรือลืมรับประทานยาคุมรายเดือนต่อเนื่องจนทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเคยใช้มาแล้วหลายครั้งก็ตาม แต่ก็ควรทบทวนหาสาเหตุและแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินซ้ำอีกในอนาคตนะคะ
ในกรณีของผู้ถาม ถ้าเป็นการนำมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางก็ถือว่าไม่เหมาะสมค่ะ แต่เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์หากยาคุมฉุกเฉินครั้งก่อน ๆ ป้องกันไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถใช้การคุมกำเนิดฉุกเฉินวิธีอื่นแทนได้ และจำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองไว้ก่อนเผื่อว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงได้นั่นเองนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์ค่ะ แต่ว่าเดือนนี้กินยาคุมฉุกเฉินไปมากกว่า2แผงแล้วค่ะ ประมาณ3-4แผงแล้ว ถ้ากินมากกว่านี้เพื่อนบอกว่ามันจะไม่คุมแล้ว เรื่องจริงไหมคะ แนะนำหน่อยค่ะ หรือว่าควรกินแบบที่เป็นเดือน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)