August 30, 2019 12:11
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนนะคะ จึงไม่จำเป็นว่าผู้ใช้จะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 1 สัปดาห์หลังรับประทานค่ะ
งานวิจัยชี้ว่า หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินมากกว่า 90% จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรืออาจคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันนะคะ
ส่วนเลือดที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ที่เป็นผลข้างเคียงจากยาค่ะ แต่ไม่ได้สำคัญอะไร อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่
ดังนั้น หากยังไม่ถึงรอบประจำเดือนปกติของผู้ถาม แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
..
..
..
หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใดอยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ต่อไปควรใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งนะคะ ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เพราะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า จึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
อาจจะไม่มีเลือดก็ได้ครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์ กรณีกินยาคุมฉุกเฉิน
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ในปัจจุบัน ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าห้ามใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละกี่ครั้งค่ะ
คำเตือนที่เคยแนะนำกันว่า "ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 2 แผง" นั้น มาจากความกังวลใจอดีตว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก บริษัทยาจึงพิมพ์คำเตือนดังกล่าวไว้ที่ฉลาก
แต่เมื่อมีการศึกษาต่อมาพบว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกอย่างที่เคยกังวล บริษัทยาจึงนำคำเตือนดังกล่าวออกไปจากฉลากแล้ว
และยังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือใดเลยที่ชี้ชัดได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉิน แม้จะใช้เกินขนาดที่แนะนำหรือใช้ซ้ำหลายรอบในเดือนเดียวกัน จะทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่อรังไข่หรือต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีอันตราย แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้โดยไม่จำเป็นนะคะ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่า เมื่อนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เช่น ใช้เพราะไม่อยากใส่ถุงยาง จึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่า
ซึ่งคำแนะนำที่ว่าไม่ควรใช้เกินเดือนละ 2 แผง นอกจากจะล้าสมัยแล้ว ยังอาจทำให้ผู้ใช้บางรายที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย เช่น เดือนละ 1 - 2 ครั้ง เกิดความเข้าใจผิดและนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ทำให้เสี่ยงที่จะป้องกันล้มเหลวและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่า
***คำแนะนำที่เหมาะสมก็คือ ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ไม่ว่าจะใช้กี่ครั้งก็ตาม***
แต่ในกรณีที่จำเป็น เช่น ถูกข่มขืน, ถุงยางฉีกขาด, ลืมรับประทานยาคุมรายเดือนจนไม่มีผลคุมกำเนิดจากยา ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเพื่อลดความเสี่ยงที่มีให้น้อยลงได้ค่ะ
และแม้จะเกิดเหตุฉุกเฉินบ่อย ๆ ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้เท่าที่จำเป็น ต่อให้เกินเดือนละ 2 แผงก็ไม่เป็นไร
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุฉุกเฉินซ้ำ ๆ จนต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ ก็คงต้องทบทวนว่าเหตุใดจึงเกิดความผิดพลาดบ่อยครั้ง และพิจารณาปรับหรือเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ให้เหมาะสมด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมฉุกเฉิน นอกจากทำให้เลือดออกกระปริดกระปรอย ยังทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น หรือช้าลงได้ แต่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นยาเร่งประจำเดือนให้มาเร็วครับ
ส่วนถ้าประจำเดือนไม่มาช่วงรอบเดือน แนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองมาทดสอบครับ โดยเก็บปัสสาวะหลังตื่นนอนซึ่งเป็นปัสสาวะใหม่ครับ
โดยตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์
และถ้าผลลบแนะนำให้ทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรกอย่างน้อย 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ครับ (อาจเปลี่ยนยี่ห้อการตรวจครับ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ทานยาคุมฉุกเฉินชนิด1เม็ด maple forteไปเมื่อเช้าวันศุกร์ที่23สิงหา62ตอนประมาณ9โมงค่ะ แต่ตอนนี้วันศุกร์ที่30สิงหา62แล้วประจำเดือนยังไม่มา จะเป็นอะไรมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)