สวัสดี​ค่ะ​ คือที่จะถามค่อนข้างจะยาวพอสมควรเลยค่ะ​ เท้าความ​ก่อนว่า​ ก่อนหน้านี้เคยเป็นเชื้อราในช่องคลอด(คันและตกขาว)​ร่วมกับปากมดลูกอักเสบมาก่อนตอนนั้นก็พบแพทย์รักษาจนอาการดีขึ้นแล้วก็หายไปค่ะ​ โดยส่วนตัวคุมกำเนิดด้วยยาคุม21วัน​ มาตลอด​ แต่ช่วงนี้หยุดยาคุมไป​ค่ะ ทีนี้อาการคันกับตกขาวก็กลับมา​ แต่ตกขาวไม่มีกลิ่นนะคะแต่สีขาวขุ่น​ ก็พยายาม​กินพวกโยเกิร์ต​ นมเปรี้ยว​เพราะหมอท่านเดิมแนะนำว่าให้กินบ่อยๆจะช่วยได้เยอะ​แต่ไม่ค่อยชอบกิน **อาการล่าสุดเลยคือ​ มันมีตุ่มเล็กๆเหมือนกับสิวหัวหนองขึ้นบริเวณ​แคมด้านในค่ะ​ 1​ เม็ด​ ไม่เจ็บ​ ไม่เคือง​ อยากทราบว่ามันเป็นโรคอะไรร้ายแรงไหมคะ​ หรือว่าติดเชื้ออะไรหรือเปล่า​ ขอบคุณ​ค่ะ

ปกติ ผู้หญิงสามารถมีตกขาวได้ค่ะ โดย ลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ ส่วนตุ่มที่อวัยวะเพศ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ การวินิจฉัยต้องดูลักษณะ ขนาด ตำแหน่ง ฯลฯ ร่วมด้วย จึงควรไปพบแพทย์ ตรวจภายในค่ะ จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การรักษาไปตามสาเหตุค่ะ