คุณหมอคะ คือก่อนหน้านี้หนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟน แล้วหลังจากมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออก ประมาณ4-5ครั้งของการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่มีอาการเจ็บหรือปวด หลังจากนั้นมีตกขาวออกมาเยอะมาก มีกลิ่นเหม็นคาว รอบแรกเป็นอยู่ประมาณเกือบ2สัปดาห์ค่ะ แต่ไปหาหมอใช้ยาเหน็บแก้ช่องคลอดอักเสบ ใช้ได้4วัน อาการตกขาวหายไปค่ะ แต่ต้องหยุดใช้ยาเพราะหนูเวียนหัว พอกลับมามีเพศสัมพันธ์อีก ก็มีเลือดออกเหมือนเดิมค่ะแต่ไม่มากเท่ารอบแรก หลังจากนั้น ก็มีตกขาวออกมาอีกค่ะแต่ไม่มากเท่ารอบแรก เป็นน้ำกลิ่นเหม็นคาว หนูตัดสินใจว่าจะไปหาหมอ แต่ดันเป็นประจำเดือนก่อน เลยยังไปไม่ได้ ตอนนี้ประจำเดือนหยุดแล้ว แต่หนูไม่แน่ใจว่าที่ออกมาเป็นตกขาว หรือเลือดค้างหลังประจำเดือน หนูต้องทำยังไงดีคะ แล้วจะรักษายังไงไม่ให้ปัญหาเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นอีกคะ

สวัสดีครับ
อาการเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บในช่องคลอดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้นซึ่งเป็นภาวะปกติในผู้หญิงบางคนแต่จะส่งผลให้เกิดอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- การอักเสบติดเชื้อบางอย่างในช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรมีการตรวจภายในโดยละเอียดเพื่อประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนครับ

ดังนั้นในตอนนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการซ้ำดูอีกครั้งก่อน และถ้าหากตรวจแล้วพบว่าเป็นโรคที่สามารถติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ได้ หมอก็แนะนำว่าควรให้แฟนไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมด้วยเพื่อป้องกันการเกิดอาการซ้ำในครั้งต่อไปครับ