May 19, 2019 10:04
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หมายถึงยาคุมชนิดธรรมดาหรือยาคุมฉุกเฉินครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมกำเนิดที่กล่าวถึง น่าจะหมายถึง "ยาคุมฉุกเฉิน" ใช่มั้ยคะ?
ผลการศึกษาในปัจจุบันไม่พบว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินทำให้เกิดอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ค่ะ
แต่ที่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อย ๆ เนื่องจากประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานมาก นั่นคือ แม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2% หรือถ้าใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียงแค่ 0.3%
ดังนั้น การนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้บ่อย ๆ แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ซึ่งถือเป็นการใช้ที่ไม่เหมาะสม จึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จ และเกิดการตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่านั่นเองนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเกิดว่ายาคุมฉุกเฉิน กินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ุเนื่องจากกลัวว่าถุงยางอนามัยฉีกขาด แต่กินทุกครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์ุุ เสี่ยงจะมีโอกาสตั้งครรภ์มากไหมคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ออ ขอบคุณค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ถ้าเกิดในกรณีที่ถุงยางฉีกขาดสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ใช่ไหมคะ หรือมีวิธีอื่นที่นอกจานี้อีก
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากเกิดปัญหาในการใช้ถุงยางอนามัย ก็สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้ค่ะ
โดยปกติจะมีวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เลือก 2 วิธีนะคะ คือการใช้ยาคุมฉุกเฉิน และการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง แต่ในกรณีของผู้ถาม หากในรอบเดือนนี้มีเพศสัมพันธ์มาหลายครั้งโดยที่ไม่มั่นใจว่าถุงยางฉีกขาดหรือไม่ และมีบางครั้งที่เกิน 120 ชั่วโมงไปแล้ว แนะนำให้ใช้เฉพาะวิธีรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ
..
..
และหากผู้ถามคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อย ๆ โดยที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร แต่ไม่มั่นใจกับการป้องกันด้วยถุงยาง แนะนำว่าเมื่อประจำเดือนมาแล้ว ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าและเหมาะสมกับผู้ถามนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีกครับ เนื่องจากถุงยางอนามัยเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว การใช้ถุงยางอนามัยจะทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้น
ในขณะที่การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากนัก หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินยังคงมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 15-25% และยาคุมฉุกเฉินก็มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก เช่น อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม อารมณ์แปรปรวน ตกขาวมากขึ้น มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงควรรับประทานเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น เช่น ถุงยางอนามัยมีการแตกรั่ว เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินโยไม่จำเป็นครับ
ในกรณีที่กังวลว่าถุงยางอนามัยจะมีการแตกรั่วได้ หมอแนะนำให้รับประทานยาคุมแบบรายเดือนจะมีความเหมาะสมมากกว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า คือ จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนครั้งแรกสามารถเริ่มรับประทานยาได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนซึ่งก็จะใีผลให่ยาคุมป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรก แต่ถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมล้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันก่อนเพื่อรอให้ยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
กินยาคุมกำเนิดเกิน3-4ครั้งของเดือนจะเสี่ยงอันตรายอะไรบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)