January 26, 2017 15:07
ตอบโดย
ชมชนัท ทับเจริญ (พญ.)
เยื่อจมูกอักเสบ หรือโพรงจมูกอักเสบ หรือจมูกอักเสบ (Rhinitis) คือการระคายเคืองและการอักเสบของเยื่อเมือกที่บุช่องจมูก ส่งผลให้โพรงจมูกบวมแดงและมีสารคัดหลั่งน้ำมูกจากเยื่อเมือกเพิ่มมากขึ้น จนก่ออาการที่พบบ่อยคือ แน่นคัดจมูก มีน้ำมูก อาการอื่นๆที่อาจพบร่วมได้ซึ่งขึ้นกับสาเหตุเช่น จาม ไอ คันจมูก คันตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บคอ ปวดศีรษะ จมูกได้กลิ่นลดลง หูอื้อ เจ็บหู หรืออาจมีไข้ที่มักเป็นไข้ต่ำๆ เยื่อจมูกอักเสบอาจแบ่งตามสาเหตุได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1)เยื่อจมูกอักเสบจากติดเชื้อ เช่น เวลาไม่สบายเป็นหวัด ติดเชื้อไวรัสหวัด 2)เยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เช่น แพ้ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ 3)เยื่อจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ เยื่อจมูกอักเสบที่เกิดจากเยื่อจมูกระคายเคืองต่อสารเคมีเช่น ควันต่างๆ กลิ่นต่างๆรวมถึงกลิ่นอาหาร ฮอร์โมนเพศ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ (เช่น ร้อน หนาว) ความเครียด ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ระยะเวลาในการดำเนินโรคหากเกิดขึ้นมีอาการอย่างรวดเร็วและหายได้ในระยะเวลาประมาณ 1 - 3 สัปดาห์เรียกว่า “เยื่อจมูกอักเสบเฉียบพลัน (Acute rhinitis)” แต่ถ้าอาการค่อยๆเกิดหรือเกิดเรื้อรังเป็นๆหายๆนานกว่า 3 - 4 สัปดาห์ขึ้นไปและมักมีการรักษาที่ยุ่งยากและอาการมักหายได้ช้าเรียกว่า “เยื่อจมูกอักเสบเรื้อรัง" แพทย์วินิจฉัยโรคเยื่อจมูกอักเสบได้จากลักษณะทางคลินิกเช่น ประวัติอาการ ประวัติการงาน ถิ่นที่อยู่อาศัยและสถานที่ทำงาน การท่องเที่ยว ประวัติความสัมพันธ์ระหว่างอาการกับสิ่งแวดล้อมต่างๆเช่น ฤดูกาล การตรวจร่างกาย การตรวจทางหูคอจมูก ซึ่งเมื่อวินิจฉัยได้แล้วว่าเป็นเยื่อจมูกอักเสบ แพทย์จะตรวจสืบค้นเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยแยกโรคว่าเป็นเยื่อจมูกอักเสบชนิดใดเพื่อการรักษาต่อไปเช่น การตรวจเลือดซีบีซี การตรวจเลือดดูสารก่อภูมิต้านทานหรือสารภูมิต้านทาน การตรวจหาเชื้อและ/หรือการเพาะเชื้อจากน้ำมูกและจากสารคัดหลั่งในโพรงหลังจมูก การตรวจเอกซเรย์ภาพไซนัสกรณีสงสัยไซนัสอักเสบ หรือการตรวจทางผิวหนังด้านภูมิแพ้เพื่อหาสารก่อภูมิแพ้ที่เรียกว่า Skin prick test/Skin allergy test เป็นต้น และอาจมีการตรวจอื่นๆเพิ่มเติมตามดุลพินิจของแพทย์เช่น การส่องกล้องตรวจโพรงจมูก การตัดชิ้นเนื้อที่รอยโรคในโพรงจมูกเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา แนวทางการรักษาโรคเยื่อจมูกอักเสบคือ การรักษาสาเหตุและการรักษาประคับประคองตามอาการ
ก. การรักษาตามสาเหตุ: เป็นการรักษาที่ต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นกับสาเหตุเช่น หยุดใช้ยาที่เป็นสาเหตุ (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยานั้นๆ) การรักษาโรคภูมิแพ้ การรักษาโรคหวัด การรักษาไซนัสอักเสบ การรักษาโรคไข้ละอองฟาง การรักษาวัณโรคหรือซิฟิลิส เป็นต้น แนะนำอ่านเพิ่มเติมในแต่ละโรคดังกล่าวได้ในเว็บ haamor.com
ข. การรักษาประคับประคองตามอาการ: ที่สำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงสารที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการเช่น ควันต่างๆ กลิ่นต่างๆ อาหารต่างๆ ยาต่างๆ รวมถึงหลีกเลื่ยงการท่อง เที่ยวในถิ่นที่มีสารก่อภูมิแพ้เช่น สวนดอกไม้บางชนิดขึ้นกับว่าแพ้เกสรดอกไม้อะไร เป็นต้น
นอกจากนั้นคือ การใช้ยาตามอาการเช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัน ยาลดน้ำมูก ยาหยอดตาที่แก้แพ้เมื่อมีอาการเยื่อตาอักเสบจากภูมิแพ้ หรือยาหยอดจมูก/ยาพ่นจมูกเมื่อเยื่อจมูกบวมมาก เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ได้กลิ่นตุๆแล้วจามตลอดเลยค่ะแล้วแสบจมูกมากๆ น้ำหูน้ำตาไหล น้ำมูกเป็นสีขาวก้อนๆ ละตอนได้กลิ่นแอร์ เริ่มหายใจไม่ออก อาการแบบนี้เป็นอะไรหรอค่ะ😭 เคยเป็นสัก 3-4 รอบ แต่ละรอบ นานๆมาทีค่ะ สักเดือนสองเดือน มาครั้งละ อาทิตย์กว่าๆ
เเสบจมูกตลอดเวลาที่อยู่ห้องแอร์ แล้วเวลาจามมากๆก็จะได้กลิ่นคาวเลือดในจมูก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)