September 22, 2019 18:44
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาเลื่อนประจำเดือนนั้นมีทั้งชนิดที่ออกฤทธิ์เป็นยาคุมได้และไม่ได้ออกฤทธิ์เป็นยาคุมได้ครับ และถ้าหากยาที่รับประทานไม่สามารถออกฤทธิ์เป็นยาคุมได้หรือเป็นยาที่ออกฤทธิ์เป็นยาคุมแต่ยังรับประทานมาไม่เกิน 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ก็จะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงอยู่ครับ ซึ่งถ้าหากเป็นในกรณีนี้ก็ควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวบาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยาคุมฉุกเฉินกินยังไงคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โดยทั่ยาคุมฉุกเฉิน 1 แผงจะมียา 2 เม็ดซึ่งสามารถการรับประทานยาคุมฉุกเฉินสามารถรับประทานได้ 2 วิธี คือ
1. รับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกันเม็ดละ 12 ชั่วโมง หรือ
2. รับประทานยาพร้อมกันทีเดียว 2 เม็ด
โดยจะเลือกรับประทานยาด้วยวิธีใดก็ได้เพราะมีประสิทธิภาพเท่ากันทั้ง 2 วิธีครับ
แต่ก็จะมียาคุมฉุกเฉินบางยี่ห้อที่ 1 แผงมียาเม็ดเดียว ก็สามารถยาคุมฉุกเฉินเม็ดนั้นเม็ดเดียวได้เลยคระบ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะ
ดิฉันได้กินยาเลื่อนประจำเดือน และมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรก แฟนไม่ได้ใส่ถุงยาง เราต้องกินยาคุมแบบไหน และสามารถท้องได้ไหม??
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)