January 14, 2019 11:22
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปแล้ว ให้รับประทาน "ยาคุมฉุกเฉิน" 1 กล่อง โดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้เลย นั่นคือ ถ้ายาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่ใช้ เป็นแบบแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้ายี่ห้อที่ใช้เป็นแบบแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียวค่ะ
สรุปก็คือ ใช้ "ยาคุมฉุกเฉิน" 1 กล่อง และรับประทานแค่ 1 วันนะคะ
จากนั้นรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ (อาจมีหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน แต่ไม่สำคัญค่ะ เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา)
ซึ่งถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงเวลา หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อความชัดเจน
ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพไม่สูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ต่อให้รับประทานเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงน้อยกว่ากันมาก จึงไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเพียงเพราะไม่อยากใช้ถุงยางอนามัยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ควรกินยาคุมกี่วันกี่กล่องหลังจากการมีเพศสัมพันธ์
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)