April 14, 2019 01:09
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้นเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมากวิธีหนึ่งครับ เมื่อยาคุมอย่างสม่ำเสมอและยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้วโอกาสตั้งครรภ์จะมีเพียง 0.3% เท่านั้น
โดยยาคุมจะออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ใน 2 กรณีต่อไปนี้ครับ
1. ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรก
2. ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ได้เต็มที่แลมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยหลังจากนั้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ที่ผมหมายถึงคือกินหลังมีนะครับถ้ากินหลังมีอะไรกัน(เเบบ28วัน)จะช่วยไหมครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้เมื่อเริ่มรับประทานก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ครับ
ถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วก็จะต้องรับประทาน “ยาคุมฉุกเฉิน” จึงจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครับ โดยการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นจะต้องรับประทานให้เร็วที่สุดภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
พอดีผมลองหาข้อมูลมาครับ ที่เขาบอกว่าถ้าฝังยาคุมให้รอ7วันแล้วค่อยมีอะไรกันเพราะอาจจะติดโรคทางเพศสัมพันธ์ อยากทราบว่ามันคือโรคอะไรหรอครับเเล้วเกิดขึ้นได้ยังไง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ก่อนอื่นหมอขอแก้ความเข้าใจผิดเรื่อง “ถ้าฝังยาคุมให้รอ7วันแล้วค่อยมีอะไรกันเพราะอาจจะติดโรคทางเพศสัมพันธ์” ก่อนนะครับ
การฝังยาคุมกำเนิดนั้นไม่สามารถใช้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม รวมถึงการคุมกำเริดด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุม ก็ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกันครับ
วิธีเดียวที่จะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้คือการใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีอยู่หลายโรค เช่น HIV ซิฟิลิส หนองใน ไวรัสตับอักเสบบี เริม หูดหงอนไก่ ซึ่งจะติดโรคเหล่านี้ได้จากการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีการติดเชื้อเหล่านี้อยู่เดิมครับ
ส่วนคำแนะนำของการฝังยาคุมกำเนิดมีดังนี้ครับ
1. ถ้าหากฝังยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมก็จะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่ฝังยาคุม
2. ถ้าหากฝังยาคุมในช่วงที่ไม่ใช่ 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนเป็นเวลา 7 วันเพื่อให้ยาคุมสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ก่อน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ผมมีอะไรกับแฟนครับหลั่งนอกทุกครั้งทานยาคุมกำเนิดแบบ28วัน อยากทราบว่า มีผลกับการคุมกำเนิดไหมครับ เเล้วช่วยได้หรือเปล่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)