April 23, 2019 16:06
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
หากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ครบสองเม็ดซึ่งเป็นช่วงที่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลง มีโอกาสตั้งครรภ์ครับ
...............
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปเเล้วหนึ่งครั้ง
ก็เริ่มยาแผงใหม่ได้ครับ
แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ ดังนั้นหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย หรือรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติทั่วไปครับ
...............
เเละเดือนนึงไม่ควรใช่ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกินสองเเผงครับ
...............
(ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด )
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์ (กรณีคนไข้ น่าจะเลื่อนเพราะกินไปสองครั้ง)
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ไปตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เนื่องจากในตอนต้นของคำแนะนำของคุณหมอจะกล่าวถึงการใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด แต่ผู้ถามใช้แบบที่มีแผงละ 1 เม็ด จึงขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ผู้ถามเข้าใจผิดว่ายังใช้ไม่ครบขนาดนะคะ
ยาคุมฉุกเฉินมี 2 รูปแบบค่ะ มีทั้งยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด และยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด แต่ทุก ๆ ยี่ห้อจะมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันค่ะ (เหมือน "เหรียญ 1 บาท 2 เหรียญ" กับ "เหรียญ 2 บาท 1 เหรียญ" นั่นเอง
การที่ผู้ถามใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ดไปแล้วจึงถือว่าครบขนาดแล้วนะคะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานค่ะ เมื่อมีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีกโดยไม่ใส่ถุงยาง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากนะคะ
จึงจำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 แผงโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ โดยจะใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด หรือยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด (โดยสามารถรับประทานครบขนาดในครั้งเดียวได้เลย) ก็ได้ ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงก็ไม่แตกต่างกันค่ะ
แต่ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานมากนะคะ ดังนั้น แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ผู้ใช้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%
การที่ผู้ถามนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติเช่นนี้ ก็เสี่ยงที่จะคุมกำเนิดล้มเหลวและตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่าค่ะ ดังนั้น ต่อไปถ้าจะมีเพศสัมพันธ์อีกจึงควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ดิฉันทานยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวไปเมื่อวานแต่วันนี้ดิฉันมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันแล้วเอาออกไม่ทันดิฉันสามารถทานยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวได้อีกหรือไม่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)