พอดีตอนแรกฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน เลือดมากระปริบกระปรอย เลยลองเปลี่ยนมาเป็น ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน ฉีดมา 2 เข็มแล้วประจำเดือนยังไม่มา เป็นอะไรไหมคะ

โดยปกติ เมื่อฉีดยาคุมชนิด 1 เดือน ควรจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้ (ประมาณวันที่ 22 - 28 นับจากวันที่ฉีดยา) ดังนั้น หากผู้ถามไปฉีดยาคุมตรงตามนัด 28 วัน ก็ควรจะมีประจำเดือนมาตามที่กล่าวไปค่ะ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนจากยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 3 เดือนมาเป็นชนิด 1 เดือน ผู้ใช้บางรายอาจยังไม่มีประจำเดือนมาในรอบเดือนแรก เป็นผลจากยาฉีด 3 เดือนที่เคยใช้ ซึ่งหากผู้ถามฉีดยาคุมตรงตามนัดสม่ำเสมอมาตลอด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

ดังนั้น เมื่อฉีดยาคุมเข็มที่ 2 ไปแล้ว แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาในสัปดาห์ที่ 4 ของการใช้หรือไม่ ถ้ายังไม่มีอีก ในวันครบกำหนดฉีดยาคุมเข็มที่ 3 ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ด้วยนะคะ

และแม้ผลตรวจจะออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็ควรแจ้งให้สูตินรีแพทย์ทราบก่อนจะฉีดยา เพื่อพิจารณาตรวจเพิ่มเติมสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

สวัสดีค่ะ
การฉีดยาคุมกำเนิดปัจจุบันมี 2 ชนิดค่ะ คือ
1. ชนิดฮอร์โมนรวม ต้องฉีดทุก 1 เดือน ข้อดีคือจะมีรอบเดือนมาปกติค่ะ
2. ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว คือมีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสติน ต้องฉีดทุก 3 เดือน การฉีดฮอร์โมนชนิดนี้มีผลทำให้ประจำเดือนขาด หรือมีปัญหาเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอดได้

กรณีของผู้ถาม ประจำเดือนที่ไม่มานั้น อาจเกิดได้จากสาเหตุของการตั้งครรภ์ (ซึ่งเกิดได้น้อย เนื่องจากการฉีดตรงเวลาทุกครั้ง สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 94-99%) หรือการได้รับฮอร์โมนคุมกำเนิดเป็นเวลานาน มีผลทำให้เยื่อบุมดลูกบางลง ทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ค่ะ
ดังนั้น แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ ซึ่งจะตรวจได้เองหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 14 วัน จึงจะแปลผลน่าเชื่อถือค่ะ
หากไม่พบการตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาคุมกำเนิดต่อตามกำหนดค่ะ

หากผู้ถามฉีดยาคุม (ทั้งแบบ 3 เดือนและ 1 เดือน) ตรงตามนัดมาตลอด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากตามที่กล่าวไปข้างต้นนะคะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ยาคุมชนิด 1 เดือนซึ่งควรจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติ แต่กลับไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันหลายเดือน ก็ถือว่าผิดปกติค่ะ จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนก่อนจะฉีดยาคุมเข็มถัดไป (หากใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ควรตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวันนะคะ)

และแม้ผลตรวจจะออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ ก็ควรแจ้งให้คุณหมอทราบเพื่อพิจารณาตรวจเพิ่มเติมและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ