ถ้ามีอะไรกับแฟนแล้วปล่อยข้างนอกสองรอบแต่กินยาคุ้มเพื่อไว้จะเป็นไรไหมค่ะ

การหลั่งนอกเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้สูง 22% ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ดังนั้น การหลั่งนอกจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิดค่ะ

ถ้ายาคุมที่ใช้คือ "ยาคุมฉุกเฉิน" เนื่องจากประสิทธิภาพไม่ได้สูงมากเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ดังนั้น แม้จะรับประทานเร็วแค่ไหนก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ

แต่ถ้ายาคุมที่ใช้คือ "ยาคุมรายเดือน" หากคุณมีการใช้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอมาโดยตลอด และมีผลคุมกำเนิดจากยาอยู่แล้วในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก ไม่ถึง 1% และสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ

สวัสดีค่ะ
ไม่มีการคุมกำเนิดวิธีใดที่มีประสิทธิภาพ 100% ค่ะการหลั่งนอก 1 ครั้ง มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 22% ซึ่งถือว่าเป็นการคุมกำเนิดที่ไม่มีประสิทธิภาพค่ะ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงคือ การฝังยาคุมกำเนิด ซึ่งมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 0.05% ค่ะ ส่วนการรับประทานยาเม็คุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้นไม่ควรใช้เกิน 2 ครั้งต่อเดือน เพราะมีความเสี่ยงเรื่องการตั้งครรภ์นอกมดลูกและเลือดออกกระปิดกระปรอยค่ะ แนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดหลายๆแบบที่สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพค่ะ เช่น ใส่ถุงยางอนามัยร่วมกับฉีดยาคุม/ฝังยาคุม/รับประทานยาคุมรายเดือน นอกจากคุมกำเนิดได้ประสิทธิภาพ ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ด้วยค่ะ

ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินนะคะ

ในอดีตเคยมีความกังวลกันว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก บริษัทผู้ผลิตยาจึงมีการระบุคำเตือนไว้ที่ฉลากยาว่า “ใช้ได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน”

แต่ต่อมาก็เข้าใจกันแล้วว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล (ก็คือยาคุมฉุกเฉินที่มีใช้ในประเทศไทย) ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก เนื่องจากมีข้อมูลจากการศึกษาที่เชื่อถือได้จำนวนมากที่ชี้ว่า อุบัติการณ์การตั้งครรภ์นอกมดลูกในผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน ไม่แตกต่างจากผู้ที่ไม่เคยใช้ค่ะ

ดังนั้น ในปัจจุบันจะไม่เห็นคำแนะนำดังกล่าวอยู่ในฉลากยาคุมฉุกเฉินแล้วนะคะ

ซึ่งองค์การอนามัยโลกก็ได้มีการเผยแพร่เอกสารวิชาการยืนยันความปลอดภัยของยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรลแล้วในปี ค.ศ.2010 ค่ะ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความปลอดภัย แต่ก็ยังไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติอยู่ดี เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพที่ด้อยกว่า ดังนั้น การนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติจึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่า และยิ่งใช้บ่อยก็ยิ่งเสี่ยงมากนั่นเอง

แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจริง ๆ เช่น ในกรณีฉุกเฉิน ได้แก่ ถูกข่มขืน หรือเกิดความผิดพลาดจากการใช้วิธีคุมกำเนิดปกติ ได้แก่ ถุงยางฉีกขาด หรือลืมรับประทานยาคุมรายเดือน ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้ค่ะ แม้จะเคยใช้มาแล้วหลายครั้งก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่าเนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงมากเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกติ ดังนั้น แม้จะใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้วก็ยังเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าวิธีคุมกำเนิดปกตินั่นเองค่ะ