August 27, 2019 20:14
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมที่ไม่ต่อเนื่องนั้นจะมีผลทำให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ไม่เต็มที่และมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้สูงครับ เพราะหลังจากขาดการรับประทานยาคุมไปหลายวันเมื่อกลับมารับประทานยาคุมอีกครั้งก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้
.
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรงดการมีเพศสัมพันธ์หลังจากนี้ไปก่อนและให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
และเมื่อประจำเดือนมาแล้วถ้ายังต้องการรับประทานยาคุมอยู่หมอก็แนะนำว่าควรเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยา และเมื่อกลับมารับประทานยาคุมแล้วก็ควรรับประทานยาคุมให้สมองเพื่อให้ยาคุมป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พอดีว่ากินยาคุมแบบ 28 เม็ด พอประจำเดือนหายได้อาทิตย์นึงถึงกับมากินต่อ แต่ว่ามีอะไรกับแฟนก่อนหน้าจะซื้อยาคุมมากินค่ะ พอกินได้4เม็ดยาคุมดันหาย ก็หยุดกินไป3วัน แล้วซื้อแผงใหม่มากินๆได้2เม็ดมีมูกสีน้ำตาลแล้วมีเลือดออกมาก2-3วันค่ะ อยากทราบว่าอาการแบบนี้อันตรายไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)